วิธีจัดการกับวันที่เลวร้ายสำหรับผู้ป่วยที่เป็น โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน !

อย่างที่ทราบกันดีว่าโรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงินนั้นเป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวด และทรมานให้กับผู้ป่วยไม่น้อย อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังวิตกกังวลในเรื่องของการรักษาที่ยังไม่หาย พวกเราทีมงานขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับคุณ และในครั้งนี้เราจะมาบอกถึง วิธีจัดการกับวันที่เลวร้ายสำหรับผู้ป่วยที่เป็น โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ! ซึ่งคุณสามารถนำสาระประโยชน์จากบทความนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือหากวันใดที่คุณประสบปัญหาในเรื่องของอาการเจ็บปวดทั้งหลายหรือวันนั้นเป็นวันที่ไม่ค่อยดีสำหรับคุณนัก คุณอาจแก้ปัญหาด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินคืออะไร? โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยจะเกิดผื่นแดงและตกสะเก็ดบนผิวหนัง อาการมักจะเป็นๆ หายๆ ระยะเวลาของการอักเสบที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่สิ่งที่มักเรียกว่าการลุกลาม ซึ่งบางรายก็จะมีความเจ็บปวดที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นการปวดที่บริเวณข้อหรือบางคนมีอาการบวมตามบริเวณต่างๆโดยเฉพาะบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้า และในขณะเดียวกันบริเวณเล็บของผู้ป่วยบางคนอาจมีลักษณะเป็นหลุมหรือ มีร่องบุ๋มลงไปในร่องเล็บ คล้ายกับอาการแพ้ผงซักฟอกหรือถูกมะนาวกัดมือในบางกลุ่มคน สำหรับโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินนั้นเป็นสภาวะที่รวมสภาวะภูมิต้านทานในตนเอง มากถึงสองอย่างเข้าด้วยกันอันได้แก่โรคสะเก็ดเงินและโรคข้ออักเสบ บางผู้ป่วยจึงสามารถเป็นได้ทั้งอาการระคายเคืองบริเวณผิวต่างๆจนเกิดการอักเสบเจ็บปวดและเป็นพร้อมพร้อมกับการปวดหลังปวดเมื่อยตามร่างกายซึ่งมีความรุนแรงแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ในบางผู้ป่วยยังสามารถมีอาการวูบวาบเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานานด้วยเช่นกัน ติดตามกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณ คุณอาจรู้สึกไม่อยากออกกำลังกายเมื่ออยู่ในช่วงที่ร่างกายกำลังร้อนระอุด้วยอาการลุกลามของการตกสะเก็ดบริเวณผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตามหากคุณออกกำลังกายให้ตรงเวลาก็ย่อมดีกับสุขภาพร่างกายของคุณอีกทั้งยังช่วยทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายของคุณมีมากยิ่งขึ้น แต่การออกกำลังกายของคุณควรได้รับการตรวจสอบอยู่เสมอ โดยให้คุณตรวจสอบว่าคุณออกกำลังกายบ่อยครั้งเพียงใดและตรงเวลามากน้อยเพียงใด รวมถึงตรวจสอบว่าการออกกำลังกายของคุณมีประสิทธิภาพหรือไม่ การออกกำลังกายระดับปานกลางเป็นประจำเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ช่วยลดอาการตึง รักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การรักษาน้ำหนักของคุณให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การศึกษาพบว่าการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น ว่ายน้ำ โยคะ และไทชิ สามารถช่วยลดอาการของผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญในการรักษาก็คือสุขภาพจิตของคุณ เพราะยิ่งคุณมีจิตใจที่แข็งแกร่งก็แน่นอนว่าร่างกายของคุณย่อมพร้อมที่จะสู้กับภาวะที่กำลังรุมเล้าอย่างแน่นอน ดังนั้นหากคุณไม่แน่ใจถึงการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพว่าเป็นอย่างไรขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญในโรคที่คุณกำลังประสบอยู่ การบำบัดด้วยความร้อนและเย็นก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักกายภาพบำบัดมักจะแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ร่วมกับการรักษาอยู่เสมอ เพราะความร้อนสามารถเพิ่มการไหลเวียนของคุณและบรรเทาความฝืดในข้อต่อของคุณได้ ในทางกลับกันความเย็นก็สามารถลดการอักเสบและรู้สึกดีกับผิวที่ระคายเคืองได้ ดังนั้น คุณควรใช้แผ่นประคบร้อนและประคบเย็นเป็นประจำในส่วนที่ร่างกายต้องการมากที่สุด แต่ทั้งนี้ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด ใช้ยาแก้ปวดไปพร้อมๆกับการประหยัดพลังงานของคุณ ยาที่ขายตามเคาน์เตอร์ร้านขายยา โดยเฉพาะยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) นั้นยอดเยี่ยมในการบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดจากการลุกลาม […]
โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินส่งผลต่อร่างกายของคุณอย่างไร?

นับว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่ค่อนข้างทรมานไม่น้อยสำหรับโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน และไม่ได้เพียงแค่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดเท่านั้นเพราะโรคดังกล่าวนั้น มีผลต่อร่างกายของคนเราด้วยเช่นกันในวันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อ โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินส่งผลต่อร่างกายของคุณอย่างไร?และแน่นอนว่าเราจะมาบอกถึงผลกระทบสำหรับผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับโรคไขข้ออักเสบดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจเหล่านี้กันเลย อาการภายในและภายนอก สำหรับอาการภายในและภายนอกที่เราควรทราบเบื้องต้นก็คือผู้ที่ประสบกับโรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงินนั้นจะมีอาการปวดที่บริเวณข้อและสามารถสังเกตได้ว่าเล็บของคุณจะมีลักษณะคล้ายกับเป็นหลุมรวมไปถึงอาการผื่นคันและตกสะเก็ด และอาการเหล่านี้เป็นอาการทั่วไปของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (PsA) รูปแบบของโรคนี้คล้ายกับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ มันกระทบประมาณ 30% ของผู้ที่เป็นโรคผิวหนังสะเก็ดเงิน อาจส่งผลต่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงอารมณ์ของคุณด้วย เนื่องจากอาการเจ็บปวดอ่ะสร้างความหงุดหงิดและวุ่นวายใจให้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้ นิ้วมือและนิ้วเท้าบวม ผู้ใดที่กำลังประสบกับอาการเจ็บปวดมาในระยะหนึ่งแล้วคุณจะสังเกตได้ว่าบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้าของคุณจะมีลักษณะบวมเกิดขึ้นในบางครั้งมันอาจจะพองตัวจนดูคล้ายกับไส้กรอก ซึ่งอาการเหล่านี้แพทย์มักจะเรียกกันว่า dactylitis อาการบวมที่เจ็บปวดนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคมากกว่าหนึ่งในสาม เป็นผลมาจากการอักเสบของข้อต่อ และมักส่งผลต่อนิ้วมือและนิ้วเท้า ซึ่งหลายคนอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ว่านั่นคือโรคเกาต์ หากมันปรากฏเฉพาะที่นิ้วเท้าของคุณ ต้องแน่ใจว่าคุณได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพราะโรคเกาต์และ PsA มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน และหากคุณไม่แน่ใจว่าคุณกำลังเป็นโรคอะไรอยู่ขอแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์โดยด่วนและไม่ควรสรุปวิเคราะห์เองเพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มือและเท้าผิดรูป รูปแบบที่รุนแรงที่สุดของ PsA เรียกว่า arthritis mutilans ทำให้เกิดการอักเสบที่ทำลายกระดูกเล็กๆ ในมือและเท้าของคุณ นิ้วมือและนิ้วเท้าของคุณอาจผิดรูป รวมถึงเคลื่อนไหวได้ยากขึ้น รวมถึงในบางบุคคลอาจมีนิ้วที่สั้นลงได้ เนื่องจากการสูญเสียมวลกระดูก รูปแบบที่หายากนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มี PsA น้อยกว่า 5% ดังนั้นคุณควรสังเกตร่างกายของตัวคุณให้ดีและหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงหากคุณไม่แน่ใจหรือเกิดความผิดปกติต้องรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วนเพื่อวินิจฉัยและรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของเล็บ คุณอาจสังเกตได้จากบริเวณเล็บมือของคุณว่ามันมีลักษณะเหมือนกับเป็นหลุมซึ่งมีความบุ๋มลงไปในเนื้อ. ลักษณะคล้ายกับการถูกมะนาวกัดหรือแพ้ผงซักฟอกในบางกลุ่มคนแต่หากคุณไม่เคยสัมผัสกับอาการแพ้ดังกล่าวและเกิดความผิดปกติกับเล็บร่างกายของคุณสิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกก็คือปรึกษาแพทย์เพื่อให้พวกเขาวินิจฉัยว่าคุณกำลังเป็นโรคอะไรเพราะนั่นหมายความว่า คุณอาจกำลังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงินได้ ซึ่งหลายคนที่กำลังประสบกับภาวะเหล่านี้ก็มักจะด่วนสรุปว่าตนเองนั้นแพ้เครื่องสำอางหรือแพ้สารเคมีแต่ไม่ใช่เสมอไปดังนั้นหลังจากพิจารณาแล้วว่าร่างกายของคุณปกติต้องอย่าลืมดูแลร่างกายของตัวเองตามคำสั่งแพทย์ ปัญหาที่บริเวณเท้าและนิ้วเท้า PSA สามารถทำให้นิ้วเท้าของคุณเจ็บและบวมได้ […]
เคล็ดลับวิธีดูแลตัวเอง สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน !

เรียกได้ว่าเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยหลายท่านหมดความมั่นใจไปพร้อมๆมีอาการวิตก ท้อแท้ไม่น้อยสำหรับโรคไขข้ออักเสบสะเก็ดเงิน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้เราจะมาบอกถึง เคล็ดลับวิธีดูแลตัวเอง สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน ! เพื่อให้คุณได้ทราบวิธีในการดูแลตัวเองที่ถูกต้องและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณได้มากยิ่งขึ้นซึ่งแต่ละวิธีที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้คุณสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆ เริ่มต้นได้จากที่บ้านและช่วยลดความวิตกกังวลให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ไปพร้อมๆ กันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ ใช้ถุงเย็น การใช้ถุงเย็นนั้นสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดบวมที่เกิดขึ้น ในบริเวณข้อมือและเท้าของคุณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คุณกำลังเผชิญกับภาวะลุกลามของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินอยู่ คุณสามารถทำเองได้โดยใส่ก้อนน้ำแข็งลงในถุงซิปล็อค หรือเพียงแค่หยิบถุงผักแช่แข็งมาประคบที่บริเวณอาการเจ็บปวดของคุณ หรือคุณอาจใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กเพื่อหอก็น้ำแข็งและนำมาประคบกันอย่างต่อเนื่องก็ได้แต่ไม่ควรประคบนานเกิน 10 นาทีต่อครั้ง การแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่น แช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นหรือใช้แผ่นประคบร้อนทาบลงบนข้อต่อที่เจ็บปวด นั้นถือเป็นวิธีบรรเทาความเจ็บปวดไปได้เนื่องจากความร้อนจะทำให้อาการบวมลดลง และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดนี้อาจทำให้คุณรู้สึกน่าทึ่งได้เช่นกัน แต่อย่าเปิดน้ำในอ่างร้อนเกินไปหรืออยู่ในอ่างนานเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและทำให้ผื่นสะเก็ดเงินแย่ลงได้ เมื่อคุณอาบน้ำร้อนเป็นระยะเวลานานนาน นอกจากนี้คุณยังสามารถบรรเทาอาการคันได้ด้วยการใส่เข้าโอ๊ดลงไปในน้ำร้อนที่คุณแช่อยู่ ตัดอาหารขยะออกไปจากเมนูของคุณ ได้โปรดหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาล ไขมัน และเกลือ เนื่องจากอาจทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชาได้ และมีอาการง่วงซึมได้ดังนั้นคุณควรกินอาหารที่ต่อสู้กับการอักเสบแทน เช่น ผลไม้,ผักสด, โปรตีนไม่ติดมัน และธัญพืชที่ไม่ขัดสี เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และไม่เพียงดีต่อโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อีกด้วย เพราะมันจะช่วยลดไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ลดความเครียด หากคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาภายใต้ความกดดันต่างๆไม่ว่าจะจากในที่ทำงานหรือภายใต้ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีให้คุณหลีกเลี่ยงและลดความเครียดเหล่านี้ โดยการเอาตัวออกมาจากสิ่งเหล่านั้นซะ ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยการอยู่กับตัวเองให้มีความสุขอย่างเช่นพยายามหาเวลาเพื่อผ่อนคลายในทุกๆวันโดยการฝึกเล่นโยคะออกกำลังกายรวมไปถึงทำงานศิลปที่บ้านแบบง่ายๆก็ได้ นอกจากจะทำให้ร่างกายจิตใจของคุณได้ผ่อนคลายแล้วคุณยังสามารถจุดประกายให้กับความสามารถในตัวคุณที่ไม่เคยได้พบมาก่อน และหากคุณมีสุขภาพจิตใจที่ดีแล้วสุขภาพร่างกายที่ดีของคุณก็จะตามมาด้วยเช่นกัน พยายามเคลื่อนไหวต่อไป การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถบรรเทาความเจ็บปวด โดยเพิ่มอารมณ์ดีให้กับตัวเอง ทั้งยังเป็นการเพิ่มระดับพลังงานและช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น การใช้เวลาไม่มาก การเดินรอบๆ ตึกทุกวันเป็นการเริ่มต้นที่ดี การออกกำลังกายอื่น […]
แอลกอฮอล์มีผลต่อความแก่ของคนเราได้อย่างไร อยากรู้ต้องห้ามพลาด !

คุณทราบหรือไม่ว่าการดื่มแอลกอฮอล์มากๆนั้น ก็อาจส่งผลทำให้ความแก่มาเยือนคุณได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งใครหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ทราบ ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อ แอลกอฮอล์มีผลต่อความแก่ของคนเราได้อย่างไร อยากรู้ต้องห้ามพลาด ! ที่จะมาบอกถึงข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณชื่นชอบการดื่มเป็นชีวิตจิตใจและเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ดังต่อไปนี้กันเลยค่ะ เหล้ามีส่วนผสมที่ไม่ดี แอลกอฮอล์เชื่อมโยงกับริ้วรอยที่อาจมาเยือนได้หลายวิธี แน่นอนว่าคุณต้องมีอายุมากพอที่จะดื่มได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อคุณอายุมากแล้วการดื่มจะยิ่งทำให้คุณแก่เร็วกว่าปกติ การดื่มหนักอาจส่งผลโดยตรงต่อบางส่วนของร่างกายและสุขภาพจิต รวมทั้งอาจมีผลทางอ้อมที่ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับความดันหรืออื่นๆ เนื่องจากในบางครั้งผู้คนมักผสมสิ่งต่างๆลงไปในเหล้าอย่างเช่นน้ำอัดลมน้ำผลไม้ซึ่งมีรสชาติหวาน ที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณดื่มแบบไม่ผสมอะไรเลยและมีดีกรีที่แรงมากเกินไปเป็นระยะเวลานานนานคุณก็อาจเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิสซึ่มได้ ซึ่งพูดได้ไงว่าอาจทำให้คุณขาดการดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เลย มันสามารถทำให้คุณขาดน้ำได้ เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณอาจมีน้ำในร่างกายน้อยลง และด้วยเหตุผลที่ไม่ชัดเจนนัก คุณอาจยังรู้สึกกระหายน้ำน้อยลงด้วย นั่นทำให้ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะขาดน้ำ การดื่มแอลกอฮอล์สามารถดึงน้ำออกจากร่างกายได้มากขึ้น และทำให้โอกาสขาดน้ำสูงขึ้น ซึ่งภาวะขาดน้ำถือเป็นภาวะที่ค่อนข้างอันตรายต่อสุขภาพเพราะอาจทำให้เราหมดสติหรือเป็นลมได้ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือต้องอย่าลืมดื่มน้ำให้มากหากคุณยังคงดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวแห้งได้ ผิวของเราจะบางลงและแห้งขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่เรียกว่าความชราที่แท้จริง และเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ ความชราจากภายนอกคือการที่ผิวของคุณแก่เร็วกว่าที่ควร เนื่องจากสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตของคุณ นั่นเอง และอีกหนึ่งสาเหตุก็คือที่มาของการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสาเหตุทำให้ผิวของคุณขาดน้ำและแน่นอนว่าผิวของคุณจะแห้ง ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณมีภาวะเครียดบ่อยครั้งนอกจากผิวของคุณจะแห้งแล้วคุณยังมีโอกาสเป็นโรคเซ็ปเดิร์ม ซึ่งจะมีอาการคล้ายกับการเป็นรังแคบนหนังศีรษะแต่จะไปขึ้นตามบริเวณที่มีต่อมไขมันอย่างเช่นบริเวณร่องจมูกร่องหู จากนั้นคุณก็จะรู้สึกคันผิวของคุณก็จะแห้งและท้ายที่สุดก็จะเป็นแผลซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตราย เค้าสามารถทำให้คุณเจ็บปวดได้หากคุณมีอาการเรื้อรังดังนั้นเพื่อเป็นการดีที่สุดคุณควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์และดื่มน้ำเปล่าให้มากยิ่งขึ้น ทำให้อวัยวะสำคัญอ่อนแอลงได้ แอลกอฮอล์สามารถส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญและทำให้แก่เร็วขึ้น ในขณะที่ผู้ดื่มหนักมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคตับแข็ง (ตับของคุณถูกทำลายอย่างถาวร) แม้แต่การดื่มในระดับปานกลางก็สามารถนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น โรคไขมันพอกตับ นอกจากนี้ยังทำให้ไตของคุณทำงานได้ยากขึ้น เค้าเรียกได้ว่าเป็นโรคที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอนและหากคุณไม่อยากมีความเสี่ยงต่อการเป็นสิ่งเหล่านี้ควรรีบเลิกดื่มแอลกอฮอล์โดยเร็วที่สุด มันสามารถทำให้สมองของคุณช้าลงได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดจะ “ตรงไปที่หัวของคุณ” หรืออย่างน้อยก็ไปที่สมองของคุณ การดื่มหนักเป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์สมองหดตัวและนำไปสู่การทำลายสมองที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ […]
สาเหตุของอาการความจำเสื่อม ที่อาจเกิดขึ้นได้ สาระน่ารู้ที่ควรระวัง !

คุณทราบหรือไม่ว่าโรคความจำเสื่อมนั้นเป็นโรคที่สามารถพัฒนาได้ และแน่นอนว่าหากมันพัฒนาขึ้นในผู้ป่วยที่ประสบกับภาวะเหล่านี้ ย่อมเกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้ จึงเป็นเหตุผลที่เราจะพาคุณมารู้จักกับ สาเหตุของอาการความจำเสื่อม ที่อาจเกิดขึ้นได้ สาระน่ารู้ที่ควรระวัง ! ในครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพให้กับคุณและคนที่คุณรัก ซึ่งครั้งนี้เราจะมาบอกถึงสาเหตุที่ทำให้คุณอาจมีความเสี่ยงในการเป็นภาวะความจำเสื่อมได้ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ ขาดการนอนหลับที่ได้คุณภาพ ประการแรก การจดจำสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่คุณยังไม่ได้นอนทำได้ยากขึ้น ประการที่สองการนอนหลับช่วยเสริมสร้างพันธะระหว่างเซลล์สมองที่ช่วยให้คุณจดจำได้ในระยะยาว ประการที่สาม การสร้างความทรงจำในตอนแรกนั้นยากขึ้นเมื่อจิตใจของคุณล่องลอยเพราะอดนอน สุขอนามัยการนอนที่ดีสามารถช่วยได้ การนอนให้ได้ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อคืน โดยออกกำลังกายทุกวันก่อนเข้านอนตามเวลาปกติ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีนในช่วงดึกของวันจะช่วยทำให้การนอนหลับของคุณเป็นไปได้ดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความจำเสื่อมได้มากยิ่งขึ้น ยา ยาที่ทำให้นิ่งลงหรือใช้ในการกล่อมประสาทเพื่อให้คุณนอนหลับเช่น ยานอนหลับและยากล่อมประสาทเหล่านั้น อาจทำให้ความจำของคุณแย่ลงกว่าที่คุณคิด แต่ตัวการที่ไม่ค่อยชัดเจน เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้แพ้ และยาแก้ซึมเศร้า นอกจากนี้ คุณอาจมีปฏิกิริยาแตกต่างจากคนอื่น ต่อยาเม็ดเดียวกันหรือยาหลายเม็ดรวมกัน ดังนั้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับความจำ เมื่อคุณเริ่มใช้ยาใหม่ พวกเขาอาจปรับขนาดยาหรือกำหนดทางเลือกอื่นได้ โรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคนี้มีแนวโน้มที่จะพัฒนาปัญหาเกี่ยวกับความจำรวมถึงภาวะสมองเสื่อม อาจเป็นได้ว่าน้ำตาลในเลือดสูงทำลายหลอดเลือดเล็ก ๆ ที่เรียกว่าเส้นเลือดฝอยในสมอง หรืออาจเป็นไปได้ว่าอินซูลินสูงทำลายเซลล์สมอง นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาประเด็นนี้ต่อไป คุณอาจสามารถชะลอการลดลงของความจำนี้ได้หากคุณพยายามป้องกัน หรืออย่างน้อยก็ควบคุมโรคเบาหวานด้วยยา และใช้การออกกำลังกายร่วมด้วยและที่สำคัญคือควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน ยีน ยีนคือลักษณะที่ผู้คนมักจะได้รับจากพ่อแม่ทางพันธุกรรม ซึ่งพันธุกรรมดูเหมือนจะมีความสำคัญในภาวะสมองเสื่อมบางประเภทมากกว่าประเภทอื่นๆ และยีนที่ส่งผลต่อความทรงจำในคนหนึ่งอาจไม่มีผลกับอีกคนหนึ่ง ดังนั้นการตรวจสอบข้อมูลจากแพทย์ของคุณนั้นถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ […]
ความกังวลยอดฮิตที่ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนไม่ยอมออกกำลัง แต่แก้ไขได้ไม่ยาก !

คุณสามารถหาเหตุผลได้เป็นล้านๆ ข้อสำหรับการไม่ยอมเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย และในบางรายมักจะคิดว่าเหตุผลที่ตัวเองอยู่นั้นมันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ดีต่อคนทุกเพศทุกวัยในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ความกังวลยอดฮิตที่ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนไม่ยอมออกกำลัง แต่แก้ไขได้ไม่ยาก ! ซึ่งหากคุณกำลังเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังกลัวการออกกำลังกายอยู่แล้วล่ะก็ เราขอแนะนำว่าเรื่องราวเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปทราบถึงเนื้อหาสาระที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่า หลายคนอาจชอบคิดว่าตัวเองแก่เกินไป การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคนรวมถึงผู้สูงอายุ แม้แต่การออกกำลังกายในระดับปานกลาง ก็ สามารถมีผลกระทบอย่างมากได้ ผู้สูงอายุบางท่านมักจะชอบคิดว่าตัวเองแก่เกินไปไม่เหมาะกับการออกกำลังกายแต่หากคุณกังวลในเรื่องนี้คุณสามารถพูดคุยกับแพทย์ของคุณ เพื่อทราบถึงผลกระทบที่มีต่อโรคประจำตัวที่คุณเป็นอยู่ก่อนออกกำลังกายได้ และหากคุณกลัวสำหรับการเริ่มต้นก็เพียงให้เริ่มทำกิจกรรมต่างๆในระดับปานกลางเพียงประมาณ 5-10 นาทีในแต่ละวัน โดยให้คุณทำใจให้สบาย จากนั้นค่อยค่อยเริ่มปฏิบัติอย่างช้าๆไม่ต้องรีบร้อน และที่สำคัญคือไม่ควรทำอย่าหักโหม นอกจากนี้คุณทราบหรือไม่ว่าแม้แต่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพร้ายแรงอย่างเช่นผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจมันโรคเบาหวานเป็นโรคไขข้ออักเสบหรืออื่นๆก็สามารถออกกำลังกายได้เช่นกัน เพราะการออกกำลังกายนั้นทำให้คุณได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายและเมื่อเหงื่อของคุณถูกขับออกมาจากร่างกายฮอร์โมนที่ดีต่อร่างกายก็จะทำงานด้วยเช่นกัน กลัวมีปัญหากับการเต้นของหัวใจ ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสที่คุณจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นหากคุณกลัวว่าคุณมีปัญหาในเรื่องของอัตราการเต้นของหัวใจก็ได้โปรดหยุดคิดเพราะนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะแพทย์ของคุณสามารถบอกคุณได้ว่าการออกกำลังกายประเภทใดดีที่สุด และคุณควรออกกำลังกายนานแค่ไหน คุณอาจจะออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลาง 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็วๆ หรือขี่จักรยานสบายๆ การตัดหญ้าหรือการทำความสะอาดอย่างหนักก็มีความสำคัญเช่นกัน และคุณไม่จำเป็นต้องทำมันอย่างรวดเร็ว อาการตึงที่ได้รับช่วงแรกเมื่อได้ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่ส่งเสริมความยืดหยุ่นอยู่ในกลุ่มของการเคลื่อนไหวที่สำคัญสี่อย่าง (รวมถึงการเคลื่อนไหวที่ช่วยเพิ่มความอดทน ความแข็งแรง และความสมดุล) ที่คุณควรออกกำลังกาย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าอาการตึงนั้นสามารถบรรเทาได้ไม่ยากด้วย การยืดกล้ามเนื้อที่เน้นไปตรงบริเวณสะโพก ขา ไหล่ คอ และหลัง รวมไปถึงบริเวณอื่นๆ ที่คุณต้องการแต่ควรบริหารและปรับสภาพอาการตึงเหล่านั้น ด้วยวิธีที่ถูกต้องดังนั้นหากคุณไม่สบายใจหรือกังวลกับเรื่องนี้ก็สามารถปรึกษาแพทย์หรือควรออกกำลังกายโดยมีนักกายภาพบำบัดควบคุมอยู่ กลัวมีปัญหากับโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ […]
วิธีดูแลตัวเองแบบง่ายๆ เพื่อต่อสู้กับความแก่ที่อาจกำลังมาเยือน !

เมื่ออายุมากขึ้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ความโรยลา ก็มักจะเข้ามาทักทายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่ออายุมากแล้วจะต้องปล่อยตัวให้ชราลงไปซะทีเดียว เพราะในวันนี้เราจะมาบอกถึงเคล็ดลับ วิธีดูแลตัวเองแบบง่ายๆ เพื่อต่อสู้กับความแก่ที่อาจกำลังมาเยือน !เพื่อให้คุณได้สามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพของคุณให้แข็งแรงและคุณจะทราบว่า เราสามารถลืมตัวเลขที่มีหน้าที่เพียงบ่งบอกอายุของเราได้แบบไม่ยากเลย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับเคล็ดลับที่น่าสนใจพร้อมกับวิธีในการปฏิบัติเพื่อดูแลตัวเองกันดีกว่า หากคุณปวดเมื่อยเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บเก่าที่กำเริบหรือเริ่มเป็นโรคข้ออักเสบ คุณมีแนวโน้มที่จะรู้สึกปวดเมื่อยบ่อยขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น การเคลื่อนไหวเป็นประจำสามารถบรรเทาอาการปวดและทำให้ข้อต่อของคุณยืดหยุ่นมากขึ้น ลองออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น ว่ายน้ำ โยคะ และไทชิ แผ่นประคบร้อนหรือถุงน้ำแข็งก็สามารถช่วยได้เช่นกัน หากสิ่งเหล่านี้ไม่ช่วยบรรเทาเพียงพอ ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์หรือยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ดูแลเรื่องริ้วรอย สิ่งเหล่านี้จะปรากฏขึ้นเมื่อผิวของคุณบางลง แห้งขึ้น และยืดหยุ่นน้อยลง แต่บางสิ่งอาจทำให้แย่ลงได้ เช่น การสูบบุหรี่และรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดหรือเตียงอาบแดด เพื่อลดสัญญาณแห่งวัยเหล่านี้ ปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด และถ้าคุณสูบบุหรี่ ให้เลิกสูบบุหรี่ และเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด เช่น มอยส์เจอไรเซอร์หรือเรตินอยด์ตามใบสั่งแพทย์ เพราะอาจทำให้เห็นริ้วรอยของคุณลดน้อยลงได้ แต่คุณจะต้องให้เวลาสำหรับดูผลลัพธ์ เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ถึง 3 เดือนในการแสดงผลลัพธ์ แพทย์ผิวหนังสามารถช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรจะดีที่สุดสำหรับคุณ หลีกเลี่ยงภาวะผิวแห้ง การป้องกันแสงแดดและการเลิกสูบบุหรี่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้เช่นกัน ดังนั้นจะคอยดูว่าคุณดื่มแอลกอฮอล์มากแค่ไหน เพราะการดื่มมันสามารถทำให้คุณขาดน้ำได้ คุณควรอาบน้ำหรือแช่ตัวในน้ำร้อยให้น้อยกว่า 10 นาทีและใช้น้ำอุ่นแทนน้ำร้อนจัด จากนั้นให้ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหนักทั่วร่างกายทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความแห้งอันนำความเหี่ยวมาสู่ผิวของเีราได้ หากไม่อยากแก่เร็วต้องหลีกเลี่ยงภาวะผิวแห้งด้วยเช่นกันนะคะ […]
รู้หรือไม่ว่ามือของคุณอาจบอกความสูงวัย ในตัวคุณได้ เพียงแค่ต้องสังเกตุ !

คุณทราบหรือไม่ว่าความโรยลาหรือความชรานั้น เราสามารถสังเกตได้จากมือของเราทุกคน ซึ่งหากคุณอยากทราบว่าอายุของคุณกับมือของคุณนั้นสัมพันธ์กันอย่างไรต้องไม่ควรพลาด เพราะในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อ รู้หรือไม่ว่ามือของคุณอาจบอกความสูงวัย ในตัวคุณได้ เพียงแค่ต้องสังเกตุ ! ซึ่งใครหลายคนอาจไม่ทันได้สังเกตว่าเมื่ออายุเข้าเลขสี่แล้ว มืออาจเหี่ยวจนรู้สึกผิดหูผิดตานั่นอาจเป็นเพราะเราลืมสังเกตมาบ้างก่อนหน้านี้ เรื่องการเหี่ยวย่นของผิวหนังนั้นถือเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราอายุมากขึ้นร่างกายก็ยอมโรยลาตามกาลเวลาเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสาระที่น่าสนใจดังต่อไปนี้กันเลยดีกว่าค่ะ มือของคุณ คุณใช้มือทำสิ่งต่างๆ มากมาย เช่น ผูกเชือกรองเท้า เปิดขวดโหล ขับรถ และใช้โทรศัพท์ เป็นต้น เป็นเรื่องยากที่จะทำอะไรหลายอย่างหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อคุณอายุมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะอ่อนแอลงและยืดหยุ่นน้อยลง ปัญหาเกี่ยวกับมือบางอย่างอาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพบางอย่าง รู้ว่าควรระวังอะไรเพื่อให้คุณรักษามันให้อยู่ในสภาพดี แรงยึดเกาะ คุณสามารถสูญเสียสิ่งนี้ได้ตามธรรมชาติเมื่อคุณอายุมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่คุณมีอายุ 65 ปี ขึ้นไปและนั่นอาจทำให้การทำงานประจำวันทำได้ยากขึ้น หากการยึดเกาะของคุณอ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป อาจเกิดจากกระดูกเปราะ ข้ออักเสบ หรือการสูญเสียกล้ามเนื้อ หากเกิดขึ้นกะทันหัน อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรงกว่า เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง แรงยึดเกาะกับการรักษา นักกิจกรรมบำบัดหรือนักกายภาพบำบัดสามารถทดสอบความแข็งแรงในมือของคุณและช่วยให้คุณฟื้นตัวหรือรักษาไว้ได้ คุณสามารถออกกำลังกายได้หลายอย่างที่บ้าน ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะบีบบางอย่าง เช่น ลูกเทนนิสให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นเวลา 3 ถึง 5 วินาที แล้วพักสั้นๆ ทำเช่นนี้ […]
รู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ !

ภาวะหัวใจล้มเหลวถือเป็นอาการที่อันตรายอย่างมาก และเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากประสบพบกับปัญหาเหล่านี้แน่นอน แหละทางที่ดีการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงนั้นถือเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องไม่ควรมองข้าม วันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อ รู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ! เพื่อให้คุณได้ทราบถึงวิธีแก้ไข สำหรับการลดความเสี่ยงในการเหตุภาวะดังกล่าวเหล่านี้กันค่ะ หากอยากทราบกันแล้วต้องอย่ารอช้า เราไปพบกับสาระและรายละเอียดที่น่าสนใจกันได้เลยดังต่อไปนี้ การพักก่อนไม่เพียงพอ คุณจะรู้สึกหงุดหงิดและเหนื่อยล้าหากคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้เช่นกัน ในการศึกษาชิ้นหนึ่ง นักวิจัยพบว่าคนที่นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน มีโอกาสเป็นโรคหัวใจวายมากกว่าคนที่นอนหลับ 6 ถึง 8 ชั่วโมงถึง 2 เท่า แพทย์ยังไม่แน่ใจแน่ชัดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แต่พวกเขารู้ว่าการสูญเสีย การนอนหลับสามารถเพิ่มความดันโลหิตและนำไปสู่การอักเสบได้ และแน่นอนว่าทั้งสองอย่างนี้ไม่ดีต่อหัวใจของคุณ เพราะมันมีควาทเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ปวดหัวไมเกรน ผู้ที่มักมีอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยๆ นั้นมีแนวโน้มที่จะมีอาการหัวใจวายในภายหลังมากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับ และสิ่งที่รวมถึงอาการประสาทหลอน ที่มองเห็นภาพ เสียง หรือความรู้สึกแปลก ๆ ที่เริ่มต้นก่อนที่จะมีอาการปวดหัวนั้น ดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับปัญหาด้านหัวใจ ดังนั้นหากคุณมีอาการปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ ให้ทราบว่าคุณควรรีบรักษาและปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยไว้จนเป็นบ่อยๆ สภาพอากาศหนาวเย็น มันน่าตกใจกับระบบ การอยู่ข้างนอกในฤดูหนาวอาจทำให้หลอดเลือดแดงตีบ ทำให้เลือดไปถึงหัวใจได้ยากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หัวใจของคุณยังต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น หากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้เล่นอย่างชาญฉลาดในอุณหภูมิที่เย็นจัด และจำกัดการออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น การตักหิมะ มลพิษทางอากาศและไอเสียรถยนต์ คุณทราบหรือไม่ว่าอาการหัวใจวายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเมื่อระดับมลพิษในอากาศสูง […]
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับภาวะหัวใจหยุดเต้น สาระดีๆสำหรับคนรักสุขภาพ !

เป็นอีกหนึ่งภาวะอันตรายที่เชื่อว่าใครก็คงไม่อยากประสบพบสำหรับภาวะหัวใจหยุดเต้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้พวกเราจะมาพูดถึงหัวข้อ สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับภาวะหัวใจหยุดเต้น สาระดีๆสำหรับคนรักสุขภาพ ! เพื่อให้คุณได้ทราบถึงสาระดีดีที่เกี่ยวกับภาวะต่างๆเหล่านี้รวมไปถึงวิธีการแก้ไขและลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการใช้ชีวิตประจำวันของคุณและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเกิด ทั้งนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสาระที่น่าสนใจไปพร้อมๆกันได้เลยดังนี้ค่ะ ภาวะหัวใจหยุดเต้นมันคืออะไร? ภาวะหัวใจหยุดเต้น หรือที่บางครั้งเรียกว่าเราอ่ะเธอได้ยินว่าภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ซึ่งหมายความว่าหัวใจกำลังหยุดเต้นอย่างกะทันหัน สิ่งนี้จะตัดการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและอวัยวะอื่นๆ เป็นภาวะฉุกเฉิน และถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาในทันที ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดดังนั้นการดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นและไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเพราะนั่นหมายถึงคุณอาจเสียชีวิตได้ อาการของภาวะหัวใจหยุดเต้นเป็นอย่างไร? ภาวะหัวใจหยุดเต้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง คุณจะหมดสติ และไม่มีการเต้นของชีพจร ไม่หายใจ ซึ่งก่อนที่มันจะเกิดขึ้น คุณอาจรู้สึกเหนื่อยมาก ไปพร้อมพร้อมกับอาการเวียนหัว อย่างรุนแรง รวมถึงมีภาวะกล้ามอ่อนแรง หายใจไม่อิ่ม หรือท้องไส้ปั่นป่วน โดยรวมแล้วคุณอาจไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเหนื่อย จนคุณอาจหมดสติในที่สุด ซึ่งในบางกรณีอาจมีอาการเจ็บหน้าอกรวมด้วยแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นในทุกกรณี และที่สำคัญคือภาวะหัวใจหยุดเต้นนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนเลย และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างท่วงทันเวลาก็อาจเสียชีวิตได้ เกิดอะไรขึ้น ? หัวใจของคุณมีระบบไฟฟ้าที่ทำให้มันเต้นอย่างสม่ำเสมอ ภาวะหัวใจหยุดเต้นอาจหยุดทำงาน หากสัญญาณไฟฟ้าขัดข้องและทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะมีหลายประเภท และส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย ภาวะที่เรียกว่า ventricular fibrillation ทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นได้มากที่สุด หากสิ่งนี้จะเกิดขึ้น หากหัวใจจะไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ นั่นเป็นอันตรายถึงชีวิตภายในไม่กี่นาที หรือเพียงไม่กี่วินาทีสำหรับบางคน เชื่อมโยงกับโรคหัวใจ หลายคนที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นก็อาจเพราะมีปัญหาเรื่องโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอันเป็นปัญหาเริ่มต้นอยู่ก่อนแล้ว การมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหมายถึง เลือดไหลเวียนเข้าสู่หัวใจได้น้อยลง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่อาการหัวใจวายที่ทำให้ระบบไฟฟ้าของหัวใจเสียหายได้ อย่างไรก็ตามหากคุณทราบว่าคุณมีอาการที่เกี่ยวกับโรคหัวใจสิ่งที่คุณควรทำคือไม่ควรปล่อยไว้และควรรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด […]