จานโปรดของคุณไม่ควรขาดสารอาหารเหล่านี้ เคล็ดลับน่ารู้สำหรับคนรักสุขภาพ ! 

อาหารเพื่อสุขภาพ

การรับประทานอาหารของแต่ละคนไม่ได้หมายความว่าจะมีรูปแบบที่เหมือนกัน เพราะอาหารที่มีประโยชน์บางชนิดบางคนก็อาจไม่ชอบและอาหารที่ไม่มีประโยชน์บางชนิดบางคนก็อาจชอบ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้เราจะมาพูดถึง จานโปรดของคุณไม่ควรขาดสารอาหารเหล่านี้ เคล็ดลับน่ารู้สำหรับคนรักสุขภาพ ! เพราะเราเชื่อว่าจะต้องดีต่อผู้ที่รักสุขภาพและต้องการทราบถึงวิธีบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจไปพร้อมๆกันได้เลยดังต่อไปนี้ค่ะ โพแทสเซียม สำหรับสารอาหารที่มีชื่อว่าโพแทสเซียมนั้นถือเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างยิ่งเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดหากคุณได้รับมันอย่างพอเพียงอีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างให้ภูมิคุ้มกันของคุณในร่างกายมีมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ คุณอาจต้องการแร่ธาตุนี้มากขึ้น เพราะมันดีต่อสุขภาพหัวใจของคุณรวมทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิต อีกทั้งยังส่งผลช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อนิ่วในไตได้ด้วย นอกจากนี้โพแทสเซียมยังส่งเสริมมวลกระดูกของคุณให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียได้มากกว่าปกติหากคุณมีมันมากเพียงพออีกทั้งกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของคุณนั้นต้องการทำงานง่ายซึ่งแน่นอนว่าโพแทสเซียมถือมีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างสิ่งเหล่านี้สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมนั้นเราขอยกตัวอย่างให้ฟังกันแบบนี้ง่ายก็คือพืชตระกูลถั่วไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสงถั่วและถั่วลันเตาหรือถั่วอะไรก็ได้ที่คุณชื่นชอบคุณควรบริโภคอย่างเป็นประจำและกลุ่มผลไม้อย่างเช่นมันฝรั่งเทสต์ กล้วยทุกชนิด, และอาโวคาโดคือสิ่งที่มีธาตุอาหารชนิดโพแทสเซียมอยู่อย่างมากดังนั้นหากคุณต้องการเสริมสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรงทราบอย่างนี้แล้วก็ซื้อกล้วยติดบ้านเอาไว้กันนะคะเพราะแน่นอนว่ามันดีต่อสุขภาพของคุณไม่น้อยเลย แมกนีเซียม ผักโขมนั้นดีสำหรับคุณ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทำไม เพราะผักโขมนั้นอุดมไปด้วยแมกนีเซียมในปริมาณสูงซึ่งแน่นอนว่ามันต้องดีต่อสุขภาพนอกจากถั่ว ถั่วลันเตา ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่วต่างๆ (โดยเฉพาะอัลมอนด์) ก็เป็นแหล่งแมกนีเซียมที่ดีเช่นกัน ใส่อาหารเหล่านี้บางส่วนหรือทั้งหมดลงในจานของคุณเพื่อช่วยป้องกันโรค หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือลำไส้ เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรือติดสุราเป็นเวลานาน หรือหากคุณเป็นผู้ใหญ่ คุณมีแนวโน้มที่จะขาดแมกนีเซียม ดังนั้นผักสีเขียวเหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยที่จะเติมแมกนีเซียมให้กับร่างกายของคุณได้อย่างง่ายดายที่สุด วิตามินเอ คุณทราบหรือไม่ว่าวิตามินเอนั้นมีส่วนในการช่วยส่งเสริมการมองเห็นที่ดี อีกทั้งยังทำให้ร่างกายของคุณมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และวิตามินเอนั้นยังมีบทบาทในเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ สามารถเข้าใจกับวิตามินเอเหล่านี้ได้ว่า วิตามินเอมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ เรตินอลและแคโรทีนอยด์ เช่น เบต้าแคโรทีน ในการรับประทานอาหารของคุณให้มากขึ้น ให้เน้นที่ผักและผลไม้สีส้มและสีเหลือง เช่น มันเทศ แครอท และฟักทองเทศ คุณจะได้รับจากผักโขมและบรอกโคลี ดังนั้นการเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีสีส้มสีเหลืองย่อมเป็นผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอนหากเป็นไปได้คุณสามารถซื้อฟักทองติดบ้านเอาไว้เพื่อต้มรับประทานหรือทำเมนูอื่นๆที่คุณโปรดปรานบ้างก็ได้ทั้งนี้เป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีโดยการรับประทานวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน วิตามินดี […]

ทำยังไงดีเมื่อ “ส้นเท้าแตก” อยากรู้ดูทางนี้ !

ทำยังไงดีเมื่อ “ส้นเท้าแตก” อยากรู้ดูทางนี้ !

   ค่อนข้างจะเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยสำหรับเรื่อง “ส้นเท้าแตก” เพราะนอกจากจะเท้าไม่สวยแล้วยัง้จ็บเท้าอีกต่างหาก เพราะเท้าคืออวัยวะที่สำคัญของร่างกายที่ถูกใช้งานแทบจะตลอดเวลาทั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน หากไม่ดูแลบำรุงรักษาปล่อยทิ้งไว้นานจนมีรอยแตก อาจนำไปสู่การอักเสบได้ วันนี้จะมาบอกวิธีป้องกัน “ส้นเท้าแตก” รวมถึงวิธีรักษา เคล็ดไม่ลับสำหรับเรื่องนี้อยากรู้มาดูกันเลย !  สาเหตุของ “ส้นเท้าแตก” ก่อนอื่นเราต้องทราบถึงสาเหตุกันก่อนว่าเป็นเพราะอะไร สำหรับคนที่ไม่ชอบใส่รองเท้า ชอบเดินเท้าเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการเดินกับพื้นเรียบๆ พื้นดิน หรือพื้นใดๆ ก็ตามโดยไม่สวมรองเท้า นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการส้นเท้าแตกได้  เซ็กซี่บาคาร่า การยืน เดิน เป็นเวลานานๆ รวมทั้งคนที่ชอบเล่นกีฬาที่ทำให้ส้นเท้ากระแทกพื้นบ่อยๆ อย่างนักวิ่ง นักเต้นรำ ก็มักมีอาการส้นเท้าแตกได้เสมอ บางครั้ง “กรรมพันธุ์” ก็มีส่วนทำให้เกิดส้นเท้าแตกได้ การเป็นคนผิวแห้ง ผิวหนังกำพร้าชั้นขี้ไคลของฝ่าเท้าหนา จึงทำให้ผิวสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ไม่กักเก็บความชุ่มชื้น จากทำมห้ส้นเท้าแตก รวมทั้งการสวมรองเท้าไม่พอดีกับเท้า ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน และอาการส้นเท้าแตกนี้มักพบบ่อยกับคนอ้วนที่มีน้ำหนักตัวมาก เพราะเมื่อน้ำหนักตัวมากเท้าก็รับน้ำหนักมากเช่นกัน  การใช้ “น้ำมันงา หรือ น้ำมันมะกอก” ในการรักษา อย่างเป็นประจำ โดยการชโลมผิวหนังบริเวณส้นเท้าที่มีรอยแตก หลังจากการอาบน้ำทุกครั้ง ด้วยน้ำมันงาหรือน้ำมันมะกอกเพียงวันละ 15 นาที โดยไม่ต้องล้างออก ก็จะช่วยได้มากเช่นกัน  การรักษาด้วยวิธี […]