ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ ข้อห้ามของคนท้อง กับเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ !
ตามความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ ข้อห้ามของคนท้อง กับเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ! เรามักจะได้ยินเรื่องเล่าต่อๆ กันมาในหลายๆสิ่งหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับความเชื่อที่มีต่อๆ กันมา ตั้งแต่โบราณที่ห้ามคนกำลังตั้งครรภ์ในการทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้มากมาย เพราะมีความเชื่อว่าจะส่งผลไม่ดีกับคุณแม่และลูกน้อยได้ แต่ความจริงเป็นอย่างไร ซึ่ง ณ ตอนนี้เป็นปี 2021 แล้ว คนยุคใหม่มีการมองโลกในมุมวิทยาศาสตร์กันมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปดูเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับข้อห้ามของคนตั้งครรภ์ กับเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์กัน จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกัน ฝากติดตามบททความที่น่าสนใจด้วยเช่น 5 อันดับครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย 1. คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกินผักเครือ ผักเถา ที่หมายถึงพืชไม้เลื้อย ผักที่เป็นเครือเถาต่างๆ อย่างเช่น ยอดฟักทอง ตำลึง ซึ่งอาจเป็นเพราะ คนสมัยก่อนมักจะประสบปัญหาปวดขา เวลาที่ได้ทานผักประเภทนี้ ซึ่ง คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ ได้อธิบายเพิ่มเติมในเรื่องนี้อีกว่า ผักยอดอ่อนจะมีสาร “Putin” สูง ตามความจริงของหลักโภชนาการ ซึ่งสารนี้จะกลายเป็นกรดยูริกหลังจากมีการย่อยแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์ได้ ส่วนคนที่ทานแล้วไม่มีอาการใดๆ ก็ควรทานมากๆ เพราะดีต่อระบบขับถ่าย 2. คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามกินกล้วยน้ำว้าเพราะจะคลอดยาก อย่างที่เคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกไว้ ว่าการกินกล้วยน้ำว้าจะทำให้คลอดยาก ซึ่งในปัจจุบัน นักโภชนาการโรงพยาบาลพระรามเก้า คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ […]
อยากให้ลูกเป็นนักกีฬาควรสอนอย่างไร รวม 5 เทคนิคปลูกฝังลูก !
กีฬา นอกจากจะช่วยทำให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว ยังช่วยทำให้เด็กอารมณ์ดี และมีร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย อยากให้ลูกเป็นนักกีฬาควรสอนอย่างไร รวม 5 เทคนิคปลูกฝังลูก ! วันนี้มีเคล็ดไม่ลับนำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ที่อยากจะฝึกให้ลูกเป็นนักกีฬา อย่ารอช้า มาดูกันเลย 1. ทำให้ลูกมีความสุขกับการเล่นเกมกีฬา เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกมีความสุขกับการเล่นกีฬา พวกเขาจะฝึกฝนด้วยตัวของเขาเอง มีความสุขของการเล่นกีฬาที่พวกเขาได้รับนั้น จะเป็นรากฐานที่ทำให้พวกเขาไม่ทอดทิ้งกีฬา และมีความต้องการที่อยากจะเล่นกีฬาต่อไป 2. สนับสนุนและให้กำลังใจลูก การเล่นกีฬานั้นย่อมมีแพ้ มีชนะ จนบางครั้งอาจนำพาความท้อใจมาให้ลูกอยู่ไม่น้อย บางครั้งเล่นแพ้จนรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเพื่อน รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า ไม่อยากเล่นอีก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นกองเชียร์ที่คอยสนับสนุน ให้กำลังใจไม่ว่าลูกจะเล่นแพ้หรือชนะก็ตาม ให้มุมมองความคิดที่ดีกับลูกเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะไม่ละความพยายามต่อไป 3. ค้นหาแรงบันดาลใจ เด็กๆ หลายคนจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อพวกเขามีไอดอล มีคนที่เป็นแรงบันดาลใจเป็นแบบอย่าง ทำให้เขาอยากประสบความสำเร็จตามในด้านนั้นๆ เหมือนไอดอลของพวกเขา ดังนั้นการทำให้ลูกได้รู้จักกับนักกีฬาที่เขาชอบ พาเค้าไปดูการแข่งขันกีฬาต่างๆ ที่เขาชอบ ก็จะนำพาไปสู่ความต้องการเล่นกีฬาของลูกได้มากขึ้น 4. หมั่นฝึกทักษะทางสมองและร่างกาย นักกีฬาที่ดีควรมีร่างกายที่แข็งแรง และมีความคล่องแคลว่องไว ซึ่งร่างกายของพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน การพัฒนาลูกตั้งแต่เล็กๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ลูกได้พัฒนากล้ามเนื้อ และฝึกฝนทักษะในการเล่นกีฬาต่างๆ อีกทั้งยังรวมไปถึงการพัฒนาทางด้านสมอง และอารมณ์ ที่จะทำให้เด็กที่สามารถประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬาได้ด้วย […]
วิธีกระตุ้นให้ลูกน้อยมีความคิดสร้างสรรค์ เริ่มได้จากที่บ้าน!
ใครๆก็อยากเห็นลูกเติบโตมามีร่างกายที่แข็งแรง มีความฉลาดปราดเปรื่อง มีสติปัญญาที่ดี นอกเหนือจากนั้น ใครๆ ก็อยากให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ วันนี้จะมาบอกถึง วิธีกระตุ้นให้ลูกน้อยมีความคิดสร้างสรรค์ เริ่มได้จากที่บ้าน! หากอยากรู้ไปดูกันเลย 1. ทำให้ลูกสบายใจ การทำให้ลูกมาอารมณ์ดี ได้ผ่อนคลาย ให้เขารู้สึกอิสระทางความคิด การคิดโดยไม่มีกรอบหรือข้อบังคับใดๆ จะยิ่งทำให้ลูกมีจินตนาการเพิ่มมากขึ้น และความคิดสร้างสรรค์ก็จะยิ่งตามมาอยู่เรื่อยๆ การให้ลูกอ่านหนังสือเล่มโปรด ได้ดูหนังเรื่องที่เขาชอบ ได้วาดรูปตามจินตนาการที่อยากวาด และได้ฟังเพลงโปรดอย่างอิสระ นับเป็นการสร้างเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเขาได้ 2. พาลูกออกไปเปิดหูเปิดตา การได้พาลูกออกไปข้างนอก ก็ยิ่งเป็นการทำให้ลูกได้เรียนรู้ สังเกต และจดจำสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ลูกจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่เขาได้เห็น เช่นการได้ไป สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก ต่างๆ 3. ให้ลูกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง การให้ลูกได้แก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเขาเอง คือการที่ลูกได้ใช้ความคิดผ่านกระบวนความคิดอย่างเป็นขั้นตอน เขาจะเกิดทักษะในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รู้จักพลิกแพลงความคิดต่างๆ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม 4. ของเล่นเสริมความคิดสร้างสรรค์ การเลือกของเล่นมีส่วนช่วยในพัฒนาสติปัญญาของลูกได้ ทั้งยังต่อยอดความคิด ฝึกสมาธิ มีความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดจินตนาการของลูกได้ การเล่น Lego ดินน้ำมัน แป้งโดว์สมุดระบายสี […]
6 วิธี ฝึกให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ เริ่มต้นที่พ่อแม่ !
ใครๆ ก็อยากให้ลูกเติบโตเป็นเด็กแข็งแรง ครบถ้วนด้วยสติปัญญาที่สมบูรณ์ ใครๆก็อยากเห็นลูกเติบโตมาเป็นคนดี วันมี 6 วิธี ฝึกให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ เริ่มต้นที่พ่อแม่! มาฝาก พร้อมทั้งบอกถึงวิธีการสอนลูกว่า ควรเริ่มจากอะไร อย่ารอช้าไปดูกันเลย 1. เริ่มที่การปลูกฝังเอกลักษณ์ของลูก เริ่มจากการที่ฝึกให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง ให้ลูกค้นหาสิ่งที่ลูกชอบ ว่าเขารักหรือชอบอะไร สิ่งใดที่เขาสนใจทำมากที่สุด โดยคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนอยู่เคียงข้าง คอยอบรมและแนะนำเขา รับฟัง เปิดโอกาสให้ลูกเป็นตัวของตัวเองโดยไม่มีการถูกบังคับ เมื่อเขามั่นใจและมีจุดหมาย เขาจะรู้วิธีพัฒนาตนเองไปเพื่อไปให้ถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ 2. หาแรงจูงใจของลูก เริ่มได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา โดยการหาแรงจูงใจให้กับลูก เด็กแต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการทำกิจกรรมจึงทำให้เราสามารถสังเกลูกได้ว่า เขาชอบอะไร การทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยพัฒนาอารมณ์และสติปัญญาได้ แต่การกิจกรรมต่างๆ ที่ทำนี้ ลูกจะต้องมีความสุข และอยากทำด้วยตัวของเขาเองไม่ใช่มาจากการบังคับของพ่อแม่ 3. หาจุดที่ลูกควรพัฒนา สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ คุณต้องหาให้เจอว่าลูกของคุณควรต้องพัฒนาด้านสติปัญญา หรือควรจะต้องพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์ เพราะทั้งสองเป็นสิ่งสำคัญ หากเมื่อคุณสามารถเจอแล้วว่าลูกน้อยของคุณขาดส่วนใด ก็จะทำให้คุณสามารถรู้วิธีช่วยลูกพัฒนาสิ่งที่ขาดได้ เพียงเริ่มจากการหาจุดให้เจอเสียก่อน 4. อย่ากลัวความล้มเหลว เด็กที่เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง แม้กระทั่งเข้าใจความผิดหวัง จะทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงคำว่า ล้มเหลว […]
6 เคล็ดลับ การฝึกให้ลูกสร้างสมาธิ พร้อมความใจเย็น !
เพราะการมีสมาธิเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวใหม่ๆ จะทำให้ลูกรับสิ่งต่างๆ ไปพัฒนสมองได้ สำหรับวันนี้มี 6 เคล็ดลับ การฝึกให้ลูกสร้างสมาธิพร้อมความใจเย็น ! มาฝาก เป็นเคล็ดลับที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจ ในการสอนลูกให้เรียนรู้มากขึ้น หากอยากรู้ไปดูกันเลย 1. ของเล่นฝึกสมาธิ สิ่งสำคัญในการเลือกของเล่นนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกของเล่นที่จะช่วยทำให้ลูกได้ฝึกสมาธิ การได้จดจ่อนั้นจะทำให้พัฒนาการด้านสมองของลูกดีขึ้น ของเล่นจำพวก เกมจับคู่ ต่อจิ๊กซอว์ หมากฮอส หรือว่า เลโก้ ก็ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนใช้สมาธิในการเล่นทั้งสิ้น 2. ฝึกสมาธิให้เป็นกิจวัตร เมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยเรียน ก็เริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองสูง อยากทำอะไรด้วยตัวเองไปซะทุกอย่าง ซึ่งก็เป็นสิ่งดีกับลูกเพราะทำให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย ทำให้ลูกได้ฝึกสมาธิไปในตัว อย่างเช่น การติดกระดุมเสื้อเอง การตักข้าวทานเอง การผูกเชือกรองเท้าเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกทำเอง เพียงแค่แนะนำว่าควรทำอย่างไรเท่านั้น 3. ออกกำลังกายสร้างสมาธิ หลังจากการออกกำลังกาย จะทำให้เด็กรู้สึกสบายตัว และนิ่งขึ้น การฝึกโยคะให้กับเด็ก เป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย และอารมณ์ ช่วยทำให้ลูกสามารถสร้างสมาธิได้ เขาจะมีความใจเย็น มีความนิ่งมากขึ้น และสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ การเล่นโยคะนั้นจะทำให้ร่างกายปล่อยสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกสมาธิมากขึ้นนั่นเอง 4. […]
6 กิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความฉลาดให้กับลูก !
นอกจากคุณพ่อคุณแม่ก็อยากเห็นรูปเติบโตมาอย่างแข็งแรงแล้วก็ย่อมต้องการเห็นลูกมีสติปัญญาที่ครบถ้วนและเป็นเด็กฉลาด วันนี้จะมาบอกถึง 6 กิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความฉลาดให้กับลูก หากใครอยากรู้มาดูกันเลย 1. อ่านหนังสือกับลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจกันเสียก่อนว่า การอ่านหนังสือกับลูกไม่ใช่การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เด็กฉลาดจำเป็นต้องมีทักษะในการอ่าน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องนั่งอ่านหนังสือให้ลูกฟัง แต่จะต้องอ่านหนังสือไปพร้อมๆ กับลูก การแบ่งปันหนังสือที่น่าอ่านให้กับลูก ย่อมมีผลที่ดีกว่า ทั้งยังช่วยส่งเสริมความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ให้ลูกมีความแม่นยำขึ้น 2. ไอคิวสำคัญน้อยกว่าการมีวินัย เด็กขยันและมีความตั้งใจนั้น มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าเด็กที่มีไอคิวสูงแต่เป็นเด็กขี้เกียจ เด็กที่มีวินัยจะไม่มีนิสัยวอกแวก และมักไม่ค่อยใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระ ทำให้สามารถคาดการณ์ ถึงประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตของเขาได้ในอนาคต 3. เด็กมีความสุขมีแนวโน้วประสบความสำเร็จ เพราะความสุข นับเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยแล้วคนที่มีความสุข มักจะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องต่างๆ มากกว่าคนที่ไม่มีความสุข ขั้นแรกคือการสร้างเด็กให้มีความสุขให้ได้ นั่นคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ โดยเริ่มจากการที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นคนมีความสุขให้ได้เสียก่อน และนำความสุขนั้นไปปลูกฝังให้กับลูก 4. เรียนรู้และลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงการนั่งมอง นั่งคิด และนั่งฝัน เพียงอย่างเดียว แต่สมองของคนเรานั้น จะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อได้ลงมือทำสิ่งต่างๆ นี่คือเหตุผลของการมีทักษะที่ดีได้ ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าการใช้เวลาไปกับการทำแบบทดสอบในเชิงทฤษฎี เพราะการลงมือทำจริงนั้นเราจะเห็นผลต่างๆ อย่างชัดเจนและแท้จริง เราจะมีทักษะในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพิ่มขึ้นตามความจริง 5. ดนตรีช่วยเพิ่มไอคิว เคยมีงานวิจัยได้เผยว่า เด็กที่มีการเรียนดนตรี […]
5 เหตุผล ที่ทำให้ลูกไม่อยากเล่นกีฬา ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม !
กีฬาคือยาวิเศษตลอดกาล เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายเราแข็งแรงแล้ว ยังฝึกให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็งได้อีกด้วย วันนี้จะมาบอกถึง 5 เหตุผล ที่ทำให้ลูกไม่อยากเล่นกีฬา ที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม! เพราะยังมีเด็กอีกหลายคนที่ไม่ชอบเล่นกีฬา เป็นเพราะสาเหตุอะไรมาดูกันเลย 1. บังคับให้ลูกเล่นกีฬาที่ไม่ชอบ สิ่งนี้บางครั้งอาจเป็นความไม่ตั้งใจของคุณพ่อคุณแม่ ที่เผลอบังคับลูกโดยไม่รู้ตัว เพราะมีความหวังอยากจะให้ลูกเล่นกีฬาที่ตนเองชอบ แต่ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วลูกชอบกีฬาประเภทนั้นๆ จริงหรือไม่ มีกีฬาหลายประเภทที่เด็กๆ จะต้องทดลองเล่นดูเสียก่อน คุณควรให้เวลาลูกได้ทดลองเล่นกีฬาแต่ละประเภทไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ว่ากีฬาประเภทใดที่ทำให้ลูกมีความสุข 2. คาดหวังให้ลูกเก่ง กีฬาบางประเภทต้องมีการแข่งขันกับคนอื่น ซึ่งเป็นธรรมดาที่พ่อแม่มักจะคาดหวังให้ลูกเก่ง เพื่อจะได้รับชัยชนะในการแข่งขัน และสิ่งเหล่านี้เป็นการทำร้ายเด็กโดยไม่รู้ตัว เพราะเด็กจะได้รับแรงกดดัน จนอาจทำให้กลัวว่าหากพวกเขาเล่นแพ้ จะทำให้พ่อแม่ไม่รัก และไม่ภูมิใจในตัวพวกเขา ซึ่งอาจเป็นที่มาของการไม่อยากเล่นกีฬาได้ 3. ไม่รับฟังปัญหาของลูก ในการเล่นกีฬาหลายๆ ชนิด มักต้องเจอกับอุปสรรคและปัญหาหลายๆอย่าง เช่น เมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือการเสียใจจากการแข่งขัน บางครั้งเจอคำดุ จากครูหรือเพื่อนๆ เวลาที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนเก่งของทีม ดังนั้นหากพ่อแม่ไม่รับฟังปัญหาของลูก ก็ยิ่งเหมือนเป็นการซ้ำเติมพวกเขาทางอ้อม จนทำให้พวกเขาไม่อยากเล่นกีฬาไปเลย 4. มักเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น เพราะคนทุกคนมีศักยภาพไม่เท่าเทียมกัน เด็กบางคนอาจมีทักษะในด้านกีฬาที่สูงกว่าอีกคน ซึ่งเป็นธรรมดาที่คุณแม่อยากให้ลูกเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จึงมีการเปรียบเทียบระหว่างลูกกับเพื่อนที่เก่งกว่า แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้ลูกรู้สึกกดดันในการเล่นกีฬา และมองกีฬาเป็นการแข่งขัน จนทำให้พวกเขาติดนิสัยวัดความสามารถกับคนอื่นตลอดเวลา […]
5 สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำกับลูก เมื่อลูกก้าวสู่การเป็นวัยรุ่น!
การเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ได้หมายความว่า เราจะก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของกันและกันได้ทั้งหมด โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกที่เริ่มเป็นวัยรุ่น วันนี้จะมาบอกถึง 5 สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำเมื่อลูกก้าวสู่การเป็นวัยรุ่น! อยากให้ลูกรักและไว้ใจ พ่อแม่ควรทำอย่างไร และพฤติกรรมใดที่พ่อแม่ไม่ควรทำกับลูก 1. ห่วงจนมีแต่ข้อห้าม บางครั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่มักมีความห่วงใยลูกมาก ย่อมเป็นธรรมดา โดยเฉพาะลูกที่กำลังย่างก้าวเข้าสู่วัยรุ่น เพราะกลัวลูกจะนอกลู่นอกทาง จนกลายเป็นมีแต่ข้อห้ามเต็มไปหมด โดยทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ให้เหตุผลกับลูกว่าเพราะ “เป็นห่วง” จนบางครั้งยิ่งทำให้ลูกรู้สึกเหมือนโดนปิดกั้น โดนบังคับ ดังนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่ควรห่วง ที่ห่วงอย่างพอดีและหันมาสร้างความไว้ใจให้กับลูกแทนจะดีกว่า 2. ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล การใช้อารมณ์กับเด็ก การข่มขู่ บังคับจิตใจลูก จะส่งผลต่อจิตใจทั้งหมดของลูก บางครั้งอาจทำให้ลูกเกิดความฝังใจ และมีการเก็บกดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความรุนแรงทางอารมณ์เวลาที่พวกเขาไกลพ่อแม่ การที่พ่อแม่ใช้อารมณ์กับลูกนั้น จะทำให้ลูกซึมซับความรุนแรงทางอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้น เมื่อไรที่ลูกทำความผิด พ่อแม่ควรใช้เหตุผลคุยกับลูกมากกว่าใช้อารมณ์ เพื่อเป็นการยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 3. อย่าพยายามแอบอ่านข้อความมือถือหรือไดอารี่ของลูก เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อลูกกำลังเป็นวัยรุ่น เพราะคนทุกคนย่อมต้องการพื้นที่ส่วนตัว ไม่อยากให้ใครก้าวล่วงเรื่องส่วนตัว การแอบอ่านไดอารี่หรือข้อความในมือถือของพวกเขา จะทำให้ลูกไม่ไว้ใจ เพราะลูกจะรู้สึกว่ากำลังถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว หากคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นห่วงลูก อยากรู้ว่าชีวิตของลูกตอนนี้เป็นอย่างไร มีปัญหาที่โรงเรียนหรือไม่ ควรใช้วิธีทำลูกตรงๆ จะทำให้ลูกไว้ใจ และอยากเล่าให้คุณฟังด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาพร้อม 4. กำหนดกฏเกณฑ์ในชีวิตลูก […]
5 วิธีสอนลูกให้รู้จักกาลเทศะ พร้อมมารยาทในการอยู่ร่วมกับสังคม !
คนเป็นพ่อเป็นแม่นอกจากจะมีความดีใจ ที่ลูกเป็นเด็กดี แข็งแรง ฉลาด มีสติปัญญาที่ครบถ้วนแล้ว แต่สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องการปลูกฝังลูกก็คือ เรื่องกาลเทศะ วันนี้จะมาบอก 5 วิธีสอนลูกให้รู้จักกาลเทศะพร้อมมารยาทในการอยู่ร่วมกับสังคม มีอะไรบ้าง อย่ารอช้ามาดูกันเลย 1. สอนให้ลูกรู้จักยกมือไหว้ คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จัก เด็ก และ ผู้ใหญ่ เด็กควรยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนเสมอ หากต้องกล่าวคำทักทายสวัสดีครับ หรือสวัสดีค่ะ ก็ควรใช้วาจาที่นอบน้อมพร้อมทั้งกิริยาที่สุภาพ การไปลามาไหว้คือการมีสัมมาคารวะที่เด็กทุกคนควรมี โดยคุณพ่อคุณแม่ ฝึกสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ลูกได้เริ่มตั้งแต่ที่บ้าน 2. ขออนุญาตให้เป็นนิสัย ก่อนที่จะต้องหยิบจับอะไรก็ตามที่เป็นของของผู้อื่นนั้น คนทุกคนควรขออนุญาตเจ้าของเสียก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางครั้งเด็กก็ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร ดังนั้นพ่อแม่ควรปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้ลูก ว่าต้องขออนุญาตเจ้าของเสียก่อน ห้ามถือวิสาสะหยิบของๆ คนอื่นโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต หรือแม้แต่ของใช้ส่วนตัวของพ่อแม่ ก็ควรฝึกให้ลูกรู้จักขออนุญาต การสอนเขาในเรื่องนี่จะทำให้เขาเข้าใจ และมีนิสัยไม่ถือวิสาสะติดตัวไปจนโต 3. การรู้ว่าอะไรเหมาะสมและไม่เหมาะสม การเป็นเด็กที่รู้จักกาลเทศะนับเป็นเสน่ห์ของเด็กคนนั้นๆ แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแต่ต้องผ่านการถูกอบรมจากครอบครัวมาแล้วทั้งสิ้น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสอนลูกให้รู้จักความเหมาะสม และความไม่เหมาะสม ในเรื่องที่สมควรทำและไม่สมควรทำ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกันอยู่ เด็กไม่ควรพูดสอดแทรกเข้ามากลางวงของผู้ใหญ่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ ควรสอนลูก 4. รู้จักขอโทษและยอมรับผิด […]
5 วิธี เลี้ยงลูกอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ควรรู้ !
ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของใครสักคนแล้ว ก็ย่อมอยากเห็นลูกเป็นคนดี และประสบความสำเร็จ การรักลูกแล้วให้ตีคงใช้ไม่ได้ผล สำหรับการเลี้ยงเด็กในยุคนี้ เพราะเด็กจะยิ่งต่อต้าน วันนี้มี 5 วิธี เลี้ยงลูกอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ! มาฝาก สำหรับใครที่อยากทราบเคล็ดไม่ลับนี้อย่ารอช้า มาดูกันเลย 1. เริ่มเปลี่ยนจากตัวคุณ คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน อาจจะคิดว่าลูกต้องเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงอยู่ฝ่ายเดียว ลูกต้องยอมเปลี่ยนพฤติกรรม ตามสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดี แต่ความเป็นจริง บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องยอมปรับ และเปลี่ยนตัวเองด้วยเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบตัวเองว่า พูดกับลูกดีแล้วหรือยัง หรือใช้อารมณ์กับลูกบ้างหรือไม่ หากสิ่งใดไม่ดีคุณพ่อคุณแม่ ก็ควรเปลี่ยนเช่นกัน 2. การรับฟังของพ่อแม่ การรับฟังสิ่งที่ลูกต้องการจะพูดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนั่นจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบถึงความคิดของลูก รวมไปถึงการรับฟังทุกความเห็นของลูก และการให้กำลังใจกันในสิ่งที่ลูกทำได้ดี เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับลูกด้วยเช่นกัน และเมื่อลูกรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เขาก็จะรับผิดชอบในการกระทำต่างๆ ที่เขาทำมากขึ้น 3. เข้าใจมุมมองที่แตกต่างของลูก ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจ กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเสียก่อน บางครั้งลูกอาจจะพูดกันคนละภาษาพ่อแม่ แต่ความห่วงใย คำแนะนำ ต่างๆ ที่พ่อแม่หยิบยื่นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดีๆ เพื่อลูกทั้งหมด แต่ความเข้าใจคือสิ่งสำคัญ และการยินดีรับฟังมุมมองที่แตกต่างของลูก โดยการให้เกียรติกันนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น 4. สนับสนุนให้ลูกกล้าฝัน การกระตุ้นให้ลูกมีความกล้าที่จะฝัน […]
