สีผัก บ่งบอกวิตามินอะไร

ผักและผลไม้ ที่มีความหลากหลายของสีสันเมื่อเห็นทีไรจะทำให้อยากจะกิน อยากจะกัดสักคำ ความรู้สึกเหมือนอยากกัดลูกแอปเปิ้ลสีแดงๆ หรือแดงโมสีแดงฉ่ำๆ นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินมากมาย ซึ่งนอกจากแร่ธาตุที่กล่าวไปแล้ว ผักและผลไม้ยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารในกลุ่ม ไฟโตนิวเทรียนท์สูง จากการศึกษาวิจัยมากมายพบว่าใน ผักผลไม้แต่ละสี จะมีปริมาณและชนิดของ ไฟโตนิวเทรียนท์ ที่มีประโยชน์ต่างกันไป ดังนั้นการที่จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย จะแนะนำให้ทานผักและผลไม้หลากสีให้ได้ในปริมาณ 400-500 กรัมต่อวัน แต่ด้วยสภาพอากาศ และการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว ทำให้ปริมาณสารอาหารในผักและผลไม้สูญเสียไปมากว่า 20% จึงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคต่างๆเพิ่มมากขึ้น ผักผลไม้หลากหลายสีสัน เป็นตัวเลือกที่ดีในการแต่งเติมสีสันบนจานในแต่ละมื้อ เพราะอาหารนอกจากจะมีประโยชน์มากมายแล้ว ทำให้สุขภาพแข็งแรง และห่างไกลโรคจากต่างๆ สีสันเหล่านั้นเป็นสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นเม็ดสีที่พืชสร้างขึ้นเองตามแต่ละลักษณะและชนิดของผักผลไม้นั้นๆ ซึ่งสีเป็นตัวบ่งบอกสารอาหารที่มีแตกต่างกัน อย่างผักผลไม้สีต่างๆมาจาก สีเขียว ได้มาจากเม็ดสีของคลอโรฟิลล์ สีเหลืองและสีส้ม ได้มาจากสีของแคโรทีนอยด์ สีแดง ม่วง น้ำเงิน ส่วนใหญ่เป็นสีของแอนโทไซยานินที่อยู่ในสภาวะที่เป็นกรด-ด่างที่ต่างกันนั่นเอง ผักและผลไม้มีทั้งวิตามิน และแร่ธาตุหลากชนิด เช่น ไฟโตนิวเทรียนท์หรือสารพฤกษาเคมี คือ สารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆได้มากมาย อีกทั้งมีคุณสมบัติที่เป็นแหล่งใยอาหารสำคัญต่อระบบย่อย และระบบขับถ่าย […]
จะรับมืออย่างไรเมื่อ “ริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์” เริ่มมาเยือน ?!

คงไม่มีใครอยากเอ่ยถึงเลยสำหรับเรื่องของ “ริ้วรอย” เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไป จากวัยเด็ก สู่วัยรุ่น จนล่วงเลยเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ สิ่งต่างๆ ก็ปรากฏชัดเจนตามกาลเวลาขึ้นเรื่อยๆ โดนเฉพาะบนใบหน้าของคนเรานั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือรอยเหี่ยวย่นอันไม่พึงประสงค์ และคงไม่มีใครที่อยากมีอย่างแน่นอน วันนี้จะมาพูดถึงประเด็นที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้าแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง พร้อม “วิธีรับมือกับรอยเหี่ยวย่น” ที่ไม่ได้รับเชิญ หากอยากทราบเรามาดูกันเลย รอยเหี่ยวย่นในแต่ละวัย นั้นแตกต่างกันออกไป ในช่วงอายุ 20 ตอนปลาย จะเริ่มมีริ้วรอยบางๆ เกิดขึ้นที่ใต้ดวงตา จะเริ่มมีริ้วรอยรอบบริเวณดวงตา ซึ่งเป็นผลมาจากการยิ้ม หัวเราะ และการแสดงออกทางอารมณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ส่วนในช่วงอายุ 30 ต้นๆ คนเราจะเริ่มมีรอยบางๆ ที่บริเวณรอบๆ ดวงตา และตาของเราจะลึกขึ้น ซึ่งรวมตัวชัดเจนจนเป็นรอยเหี่ยวย่น ให้เราสามารถเห็นได้ชัด รอยตีนกาที่หางตาจะเริ่มปรากฏบางๆ ส่วนริ้วรอยระหว่างคิ้วไปจนถึงหน้าผากบนนั้นเป็นผลมาจาก การขมวดคิ้วอยู่เป็นประจำนั่นเอง 1. การเลือกทานอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูนอิสระ เป็นการลดร่องรอยได้ดี อาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ วิตามินซี วิตามินอี จะช่วยลดริ้วรอยได้ดี ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ จะอยู่ในผักผลไม้ เช่นคะน้า ผักโขม อาโวคาโด น้ำมันมะกอก […]