เนื้อ เพียบไปด้วยธาตุเหล็กโปรตีน แล้วเหตุใดแพทย์จึงบอกว่าให้ทานเนื้อน้อยลง ?
การบริโภคเนื้อ มากเกินไป รับประกันได้ว่าจะทำให้เป็นมะเร็ง เบาหวานและโรคหัวใจ แต่พออ่านหนังสืออีกเล่ม คุณก็เชื่อว่าอาหาร 3 มื้อ คือวิธีดีที่สุดในการมีหุ่นในฝัน ตอนนี้พ่อครัวชื่อดังชาวอังกฤษ ฮิวซ์ เฟิร์นลีย์วิทติงสดอลล์ บอกว่าอาหารส่วนใหญ่ที่เขากินไม่มีเนื้อหรือปลาเลยงั้นคำตอบคืออะไร ? เราควรบริโภคเนื้อมั้ยล่ะ? ความจริงก็คือเรื่องนี้เป็นเรื่องซับซ้อน ที่ถกได้ไม่เลิกราและมีหลักฐานปะปนกัน ข่าวพาดหัวมักเป็นผลลัพธ์จากการศึกษาเรื่องสุขภาพและหลายอันสรุปความไม่ได้ สิ่งสำคัญที่ผู้เขี่ยวชาญเห็นพ้องต้องกันคือ กินน้อยไว้เป็นดี
สำหรับคำถามที่ว่า ควรกินเนื้อแค่ไหน? กับคนทั่วไปย่อมขึ้นอยู่กับว่าคุณ พำนักอยู่ที่ใด อายุเท่าไร และกระปรี้กระเปร่าแค่ไหนคนปกติไม่ต้องการโปรตีนมากไปกว่าไข่ต้ม 1ฟองหรือไก่ 1น่อง คำแนะนำที่สมดุลคือโภชนาการอาหารเพื่อสุขภาพดีควรมีโปรตีนเนื้อล้วนสองส่วนต่อวัน เนื้อเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่สำคัญ ดังนั้นจึงแนะนำเนื้อแดงสัปดาห์ละสองส่วน และแต่ละส่วนควรมีขนาดเท่าฝ่ามือหรือไพ่หนึ่งสำรับ แม้กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษแนะนำว่า ประชาชนไม่ควรบริโภคเนื้อแดงหรือเนื้อผ่านกระบวนการมากกว่าวันละ 70 กรัม เมื่อปี 2009 มูลนิธิการค้นคว้า World Cancer แนะนำว่าไม่ควรกินเนื้อเกินสัปดาห์ละ 70 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเบคอนไม่ติดมัน 3 ชิ้น
ตัวประกอบโปรตีน
นักโภชนาการบอกว่า โภชนาการอาหารของเรา ควรมีโปรตีน 12-15 % คนส่วนใหญ่รับโปรตีนมากเกินควร ไม่ว่าจะผ่านทางเนื้อ นม ไข่ ชีส หรือปลา การกินเนื้อ ไม่ได้มีอันตรายใดๆ ตราบเท่าที่เราไม่ได้กินมากจนเกินควร เนื้อแดงมีโปรตีนมากกว่าเนื้อขาว ดังนั้นถ้าเรากินเนื้อแดงมากกว่าปลาหรือไข่ เท่ากับเรารับระดับโปรตีนสูงขึ้น โปรตีนมากเกินควร ก็นำไปสู่การมีกรดอะมิโนที่อยู่ในร่างกายมากเกินเช่นกัน ซึ่งทำให้ไตทำงานหนักในการขับกรดนี้ออกไป
ไขมันมากเกินไปรึเปล่า
ความกังวลอีกประการคือไขมันอิ่มตัว ซึ่งได้รับคำแนะนำให้ลดซะเพื่อเลี่ยงโรคหัวใจ คนที่บริโภคอาหารมีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น พวกอาหารทอดมักมีน้ำหนักตัวเกินพิกัด นักโภชนาการแนะว่าให้กินอาหารแบบธรรมชาติ คือมีเนื้อ ไข่ ปลา และผลิตภัณฑ์นม ไข่ โดยสิ่งที่พึงเลี่ยงโดยสิ้นเชิงคืออาหารที่ผ่านกระบวนการซึ่งมักเพียบไปด้วยน้ำตาล เกลือ และสารกันบูด อย่าลืมว่าเมื่อหลายล้านปีก่อนเราไม่มีโรคหัวใจ และไม่มีอาหารผ่านกระบวนการ แต่ในเวลาต่อมาเรามีครบทั้งสองอย่างโดยไม่เคยนึกสงสัยแม้แต่น้อยว่าเนื้อจะปรุงแต่งสี และรสด้วยอะไร
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่
เห็นพ้องในความจำเป็นว่า ต้องลดปริมาณเนื้อผ่านกระบวนการที่เราบริโภคกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกราคาถูก พาย ฮ็อตดอก อาหารเนื้อแช่แข็งหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง การศึกษาที่ยังกระทำอยู่ บ่งบอกความเชื่อมโยงอาหารเหล่านี้กับโรคเบาหวานด้วย แต่การศึกษาที่กระทำในยุโรปกับคนครึ่งล้านสรุปได้ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องระหว่างการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อ ผ่านกระบวนการกับความเสี่ยงโรคมะเร็งที่ทวาร สำหรับผู้ที่บริโภคเนื้อในปริมาณต่ำ ขณะการค้นคว้าในอังกฤษยังยืนกรานว่าเนื้อผ่านกระบวนการมีความเชื่อมโยงกับมะเร็งที่ทวารมากกว่าเนื้อแดง ดังนั้นอาจต้องโทษที่กระบวนการผลิตเป็นสำคัญ
เครดิตเรื่องและภาพ