


เราเชื่อว่ายังคงมีใครหลายคนบนโลกใบนี้ที่ชื่นชอบการบริโภคน้ำตาลหรือของหวานๆ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการวิจัยกันเป็นอย่างมากหมายสำหรับน้ำตาลและความเชื่อมโยงที่มีต่อร่างกายในวันนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกายของเราบ้าง เรื่องน่ารู้ของคนรักสุขภาพ ! เพื่อเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางในการลดน้ำตาลให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้นหากอยากทราบกันแล้วว่าเคล็ดลับในวันนี้จะน่าสนใจและสามารถปฏิบัติได้อย่างไรบ้างต้องอย่ารอช้าค่ะเรามาพบกับสาระน่ารู้กันได้เลย

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไม่ทำให้คุณรู้สึกอิ่มและมีผลอย่างมากต่อการเพิ่มน้ำหนัก
รูปแบบของการกินน้ำตาลที่พบได้บ่อยที่สุดคือซูโครสหรือน้ำตาลทราย ซึ่งจะให้น้ำตาลฟรุกโตสอย่างง่ายและในปริมาณมาก ฟรุกโตสไม่ได้ลดฮอร์โมนเกรลินหรือกระตุ้นความอิ่มในลักษณะเดียวกับน้ำตาลกลูโคส อันเป็นน้ำตาลที่ก่อตัวขึ้นเมื่อคุณย่อยอาหารจำพวกแป้ง
ดังนั้นเมื่อคุณบริโภคน้ำตาลเหลว คุณมักจะเพิ่มน้ำตาลเข้าไปเกินปริมาณที่ควรได้รับสำหรับแคลอรี่ทั้งหมด เพราะเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกอิ่ม จากในการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้ที่ดื่มโซดาหวานนอกเหนือจากอาหารในแต่ละวันของพวกเขานั้น จะบริโภคแคลอรี่มากกว่าเดิมมาถึง 17% จึงไม่น่าแปลกใจที่การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหวาน จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม
จากการศึกษาหนึ่งในเด็กพบว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทุกวัน ในแต่ละมื้อเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 60% ของโรคอ้วน อันที่จริงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบที่ทำให้อ้วนมากที่สุดในอาหารสมัยใหม่

น้ำตาลจำนวนมากจะกลายเป็นไขมันในตับของคุณ
น้ำตาลทราย (ซูโครส) และน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูงนั้นประกอบด้วยโมเลกุลสองโมเลกุลคือ กลูโคสและฟรุกโตสในปริมาณที่เท่ากันโดยประมาณ กลูโคสสามารถถูกเผาผลาญโดยทุกเซลล์ในร่างกายของคุณ ในขณะที่ฟรุกโตสสามารถถูกเผาผลาญได้โดยอวัยวะเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตับของคุณ
เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลนั้นเป็นเครื่องดื่มที่หาง่ายและสามารถดื่มได้ในชีวิตประจำวัน เครื่องดื่มชนิดนี้มักจะพบน้ำตาลฟรุคโตสอยู่บ่อยๆทั้งในปริมาณสูง ดังนั้นเมื่อคุณบริโภคน้ำตาลประเภทนี้มากตับของคุณก็จะทำงานหนักยิ่งขึ้นและเปลี่ยนฟลุกโตสให้กลายเป็นไขมัน และไขมันบางส่วนจะถูกส่งออกไปในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ขณะที่ไขมันบางส่วนยังคงอยู่ในตับของคุณ เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้สามารถนำไปสู่โรคไขมันพอกตับได้แม้ว่าคุณจะไม่ใช่ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์อยู่บ่อยๆก็ตาม

น้ำตาลเพิ่มการสะสมไขมันหน้าท้องอย่างมาก
การบริโภคน้ำตาลสูงเกี่ยวข้องกับการเพิ่มน้ำหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟรุกโตสเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นอย่างมากของไขมันอันตรายรอบพุงและอวัยวะของคุณ สิ่งนี้เรียกว่าไขมันในช่องท้องหรือไขมันหน้าท้อง ไขมันหน้าท้องที่มากเกินไปจะเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจ
ในการศึกษาหนึ่งสัปดาห์เป็นเวลา 10 สัปดาห์ คนที่มีสุขภาพแข็งแรง 32 คน บริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสหรือกลูโคสให้ความหวาน ผู้ที่บริโภคน้ำตาลกลูโคสจะมีไขมันที่ผิวหนังเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโรคเมตาบอลิซึม ในขณะที่ผู้ที่รับประทานน้ำตาลฟรุกโตสพบว่าไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก

โซดาที่มีน้ำตาลอาจทำให้เกิดการดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของโรคเมตาบอลิซึม
ฮอร์โมนอินซูลินขับกลูโคสจากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ของคุณ เมื่อคุณดื่มโซดาที่มีน้ำตาล เซลล์ของคุณอาจมีความไวน้อยลงหรือต้านทานต่อผลกระทบของอินซูลินได้ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ตับอ่อนของคุณต้องสร้างอินซูลินมากขึ้น เพื่อกำจัดกลูโคสออกจากกระแสเลือด ดังนั้นระดับอินซูลินในเลือดของคุณจึงพุ่งสูงขึ้น ภาวะนี้เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ความต้านทานต่ออินซูลินเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มอาการเมตาบอลิซึม ซึ่งอาจเป็นผลที่นำไปสู่โรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจ จากการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่าฟรุกโตสที่มากเกินไปทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินรวมถึงระดับอินซูลินที่สูงขึ้นอย่างเรื้อรัง จากอีกหนึ่งการศึกษาหนึ่งในชายหนุ่มที่มีสุขภาพดีพบว่า การบริโภคฟรุกโตสในระดับปานกลางจะเพิ่มความต้านทานต่ออินซูลินในตับ


เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหวานอาจเป็นสาเหตุหลักของโรคเบาหวานประเภท 2
โรคเบาหวานประเภท 2 เป็นโรคที่พบได้บ่อย ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก เป็นลักษณะของน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากการดื้อต่ออินซูลินหรือการขาดอินซูลิน สาเหตุเพราะมีการบริโภคฟรุกโตสมากเกินไป จนอาจนำไปสู่การดื้อต่ออินซูลิน จึงไม่น่าแปลกใจที่การศึกษาจำนวนมากเชื่อมโยงการบริโภคโซดากับโรคเบาหวานประเภท 2 ในความเป็นจริงแล้วการดื่มโซดารสหวานเพียงหนึ่งกระป๋องต่อวันนั้นมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเบาหวานประเภท 2 อย่างต่อเนื่อง
จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งพิจารณาการบริโภคน้ำตาลและโรคเบาหวานของผู้คนใน 175 ประเทศ พบว่าน้ำตาลทุกๆ 150 แคลอรีต่อวัน หรือประมาณโซดา 1 กระป๋อง จะมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2 เพิ่มขึ้น 1.1% ในมุมมองนี้หากประชากรทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาดื่มโซดาหนึ่งกระป๋องในมื้ออาหารอย่างเป็นประจำทุกวันอาจมีผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นได้ถึง 3.6 ล้านคน

โซดารสหวานไม่มีสารอาหาร
โซดาหวานแทบไม่มีสารอาหารที่จำเป็นเลย ไม่มีวิตามิน ไม่มีแร่ธาตุ และไม่มีใยอาหาร มันไม่เพิ่มอะไรให้กับอาหารของคุณ นอกจากน้ำตาลที่อาจมีมากเกินไปรวมถึงแคลอรีที่ไม่จำเป็น ดังนั้นหากต้องการลดน้ำตาลหรือลดน้ำหนักคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มนี้

น้ำตาลอาจทำให้เกิดการดื้อต่อเลปติน
Leptin เป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยเซลล์ไขมันในร่างกายของคุณ ทำหน้าที่ควบคุมจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินและเผาผลาญ เมื่อระดับเลปตินเปลี่ยนแปลง ความอดอยากและความอ้วนก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน จึงมักเรียกว่าฮอร์โมนความอิ่มหรือฮอร์โมนความหิว
การดื้อต่อผลกระทบของฮอร์โมนนี้ซึ่งเรียกว่าการดื้อต่อเลปติน ในปัจจุบันเชื่อว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ไขมันเพิ่มขึ้นในมนุษย์ ในความเป็นจริงการวิจัยในสัตว์เชื่อมโยงกับการบริโภคฟรุกโตสรวมถึงการดื้อต่อเลปติน อีกในการศึกษาหนึ่งที่ได้ทดลองกับหนูทดลอง พบว่าหนูเกิดการดื้อต่อเลปตินหลังจากได้รับฟรุกโตสจำนวนมาก เมื่อพวกเขากลับไปรับประทานอาหารที่ปราศจากน้ำตาล ภาวะดื้อต่อเลปตินก็หายไป

น้ำอัดลมอาจทำให้เสพติดได้
เป็นไปได้ว่าน้ำอัดลมเป็นสารเสพติด จากการทดลองในหนูทดลองพบว่า การกินน้ำตาลอาจทำให้โดปามีนหลั่งในสมองทำให้รู้สึกมีความสุข การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจให้ผลคล้ายกันในบางคน เนื่องจากสมองของคุณต้องการหากิจกรรมที่หลั่งสารโดปามีนในความเป็นจริง การศึกษาจำนวนมากแนะนำว่าน้ำตาลและอาหารขยะแปรรูปโดยทั่วไป ส่งผลต่อสมองของคุณเหมือนยาเสพติด
สำหรับบุคคลที่มีแนวโน้มจะเสพติดน้ำตาล อาจทำให้เกิดพฤติกรรมชื่นชอบการหาเครื่องแปลกใหม่ที่มีรสหวานมากขึ้น การศึกษาในหนูแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลสามารถทำให้ร่างกายเสพติดได้แม้ว่าการเสพติดจะพิสูจน์ได้ยากในมนุษย์ แต่หลายคนก็ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในรูปแบบปกติในทุกๆวัน เช่นมื้อกลางวันใครหลายคนอาจเลือกดื่มน้ำอัดลม ร่วมไปกับการรับประทานมื้อเที่ยง แทนการดื่มน้ำเปล่า ทางที่ดีที่สุดคุณควรเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนจะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นโรคเบาหวานหรือกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักอย่างจริงจัง




เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเนื้อหาสาระของบทความ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกายของเราบ้าง เรื่องน่ารู้ของคนรักสุขภาพ ! ที่เราได้นำมาฝากกันไปเมื่อสักครู่นี้ พอที่จะทำให้คุณได้ทราบถึง วิธีเลือกดื่มเครื่องดื่มมากยิ่งขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะคะ อย่างไรก็ตามหากบทความนี้มีประโยชน์ คุณสามารถแชร์ต่อให้กับเพื่อนๆและคนที่คุณรักได้เช่นกัน ได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนสวัสดี