อะไรเอ่ยเป็นผักรูปทรงรี มีเปลือกสีเขียวเข้ม ด้านในเป็นสีขาว กลิ่นหอมสดชื่นมักได้กลิ่นนี้ในเนื้อของโลชั่นทาผิว ขอเฉลยเลยแล้วกัน ผักชนิดนี้ก็คือ “แตงกวา” นั่นเอง ! รู้หรือไม่ว่าแตงกวานั้นมีประโยชน์มากมาย วันนี้จะมาบอกข้อดีและประโยชน์ของ “แตงกวา” ที่คุณอาจยังไม่ทราบ หากทราบแล้วยิ่งรู้ยิ่งต้องควรกิน !
รู้หรือไม่ว่า “แตงกวา” ช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท
ได้เพราะแตงกวามีสารต้านการอักเสบที่เรียกว่า “fisetin” พี่ค่อนข้างมีบทบาทต่อสมองเป็นอย่างมาก ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางระบบประสาท ที่เกี่ยวข้องกับอายุการทำงานของสมอง ทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อมมีการรับรู้ทางสมองที่ดีขึ้น ซึ่งสารนี้เองที่อยู่ในแตงกวา สตอเบอรี่ และองุ่น
“แตงกวา” ช่วยบรรเทาอาการปวดได้
เพราะในแตงกวามีสาร Flavonoids ที่เป็นสารต้านการอักเสบโดยเฉพาะ จะช่วยลดความเจ็บปวดในร่างกาย และในแตงกวานั้นยังมี “แทนนิน” ที่คอยทำหน้าที่ ปลดปล่อยอนุมูลอิสระในร่างกายได้อีกด้วย
“แตงกวา” ช่วยป้องกันกระดูก
เนื่องจากในแตงกวานั้นอุดมไปด้วย “วิตามินเค” ที่มีปริมาณสูงถึง 22% ในปริมาณแตงกวาเพียง 1 ถ้วยเท่านั้น วิตามินชนิดนี้มีความจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูก มนุษย์ควรบริโภควิตามินเคต่ำ เพราะหากร่างกายขาดวิตามินเค ก็จะทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกแตก “วิตามินเค” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการช่วยดูดซึมแคลเซี่ยมในกระดูก
“แตงกวา” สามารถควบคุมน้ำหนักได้
เป็นข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่กำลังต้องการลดน้ำหนัก เพราะแตงกวามีแคลอรี่ที่ต่ำมาก มีเพียง 16 แคลอรี่ต่อ 1 ถ้วย เท่านั้น ทั้งแตงกวายังมีเส้นใยในผิวหนัง ซึ่งหลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารที่มีเส้นใยจำนวนมากนั้น ย่อมดีต่อการควบคุมน้ำหนัก
“แตงกวา” ลดกลิ่นปากได้
รู้หรือไม่ว่าในแตงกวานั้นอุดมไปด้วย “ไฟเบอร์” จำนวนมาก และน้ำในแตงกวาสามารถเพิ่มการผลิตน้ำลายในปากของเราได้ เมื่อน้ำลายในปากของเราเพิ่มขึ้น ก็จะล้างแบคทีเรียซึ่งเป็นที่มาของ “กลิ่นปาก” นั่นเองเพราะกลิ่นปากมักจะเกิดจากแบคทีเรียในปาก
“แตงกวา” ช่วยปกป้องการเกิดริ้วรอยได้
ให้คุณลองสังเกตจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในปัจจุบันว่า ทำไมจึงมักมีแตงกวาเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ในหลายยี่ห้อ นั่นเพราะแตงกวาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นผักที่มีประสิทธิภาพ “ด้านการต่อต้านริ้วรอย” จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแตงกวาจึงสามารถทำให้คุณมีสุขภาพผิวที่ไร้ริ้วรอยได้
“แตงกวา” ช่วยบำรุงหัวใจ
ได้มีผลผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปริมาณโพแทสเซียมว่า กลุ่มคนที่บริโภคโพแทสเซียมสูงขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็น โรคหลอดเลือดสมอง อีกทั้งยังลดความเสี่ยงของการเป็น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้ด้วย ซึ่งในแตงกวามีโพแทสเซียมมากถึง 152 มิลลิกรัม ต่อ 1 ถ้วย ที่สามารถช่วยลดความดันในเลือดได้
“แตงกวา” ช่วยเพิ่มความสดชื่น
ในแตงกวานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากมาย ซึ่งมีถึง 95.2 % นั่นก็หมายความว่าแตงกวา 5 ออนซ์ ประกอบด้วยน้ำ 4.8 ออนซ์ หรือ 150 มิลลิลิตร คือ ประมาณ 26% ของปริมาณน้ำดื่ม ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
“แตงกวา” ช่วยป้องกันอาการท้องผูก
ในส่วนเนื้อของแตงกวานั้น มีเส้นใยมากมายที่ไม่ละลายน้ำอยู่ และในแตงกวานั้นก็อุดมไปด้วยสัดส่วนของน้ำจำนวนมาก ซึ่งน้ำและเส้นใยทั้งหลายนี้ จะช่วยทำให้อาหารเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น หรือแตงกวามีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้ดีนั่นเอง
“แตงกวา” ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
และสามารถลดการอักเสบของร่างกายได้ เพราะในแตงกวานั้นมีสาร “Lignans” ที่จะเป็นตัวลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้ รวมทั้งยังลดการภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ในแตงกวายังมี Polyphenols ที่จะช่วยลดการอักเสบ ทั้งยังมีสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็งที่ชื่อมีว่า Cucurbitacins อีกด้วย
หวังว่าคุณจะถูกใจบทความ รู้หรือไม่ “แตงกวา” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ยิ่งรู้ยิ่งต้องควรกิน ! อันนี้
เครดิตภาพ : google.com ,Pinterest.com