Apple Cider Vinegar หรือ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล
น้ำส้มสายชูที่นำเอาน้ำแอปเปิ้ลสดมาหมักกับยีสในถังไม้โดยไม่ผ่านความร้อนแล้วกรองออกมาเป็นแอลกอฮอล์ แล้วนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรียจนเกิด “อะซิติก แอซิด” (Acetic acid) จนกลายเป็น “กรดนำ้ส้ม” จึงยังคงเอนไซม์และแร่ธาตุจากธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง
สามารถดูดซับ “น้ำตาล” และ “ไขมัน” ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่า การใช้ แอปเปิ้ลไซเดอร์ วีเนก้า หากร่วมกับวิตามิน แร่ธาตุ ตัวอื่นๆ จะส่งผลให้การเผาผลาญไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยังประกอบด้วยธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย คือเป็นพวก ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อช่วยทำลายแบคทีเรีย และมีเอนไซม์หลายชนิดรวมอยู่ด้วย
ประโยชน์ของแอปเปิ้ลไซเดอร์
- โพแทสเซียม ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์และหลอดเลือดแดง ช่วยในการแบ่งเซลล์ หากขาดแร่ธาตุนี้จะมีผลทำให้ร่างกายมีอาการผิดปกติ เช่น ผมร่วง ผมหงอก
- ช่วยชะลอความแก่ คงความหนุ่มสาว ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น
- ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียของร่างกายหลังออกกำลังกายช่วยรักษาโรคภูมิแพ้และหอบหืด ทำให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น
- ลดความดันโลหิตและโรคหัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดของหนูทดลองได้ แต่สำหรับคนยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อและช่วยลดการติดเชื้อ ลดพิษจากอาหารที่รับประทานเข้าไป
- ช่วยแก้โรคคัน รักษาโรคผิวหนัง ช่วยปรับระดับความเป็นกรด-ด่างในร่างกายให้สมดุล ในต่างประเทศถือว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ช่วยล้างพิษในร่างกายได้ใช้แช่ผักที่มีสารพิษตกค้างได้
- ลดความอ้วน จะช่วยเรื่องระบบการย่อยให้สมบูรณ์ เผาผลาญอาหารได้มากขึ้นและลดความอยากอาหารและทำให้อิ่มเร็วมากขึ้น
- ช่วยรักษาสภาพผิว ด้วยการใช้น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์และน้ำอย่างละเท่า ๆ กัน นำมาผสมแช่ในตู้เย็น แล้วนำมาเช็ดหน้าและแปะไว้บนหน้า
- มาส์กหน้าด้วยแอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยทำให้รูขุมขนดูกระชับ ใช้ทำเป็นโทนเนอร์ ด้วยการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ส่วนผสมกับน้ำเปล่า 3 ส่วน นำไปแช่ในตู้เย็น แล้วน้ำมาเช็ดหน้าแล้วล้างออก (อาจจะรู้สึกคันยิบ ๆ บ้าง)
ข้อควรระวังในการใช้
- การทานให้เหมาะสมคือ “วันละ 2 ช้อนชา” ผู้ที่เริ่มทานใหม่ๆควรทานประมาณ “วันละ 1 ช้อนชา” ด้วยการผสมน้ำเปล่าเหรือน้ำผลไม้ มีฤทธิ์เป็นกรดหากทานเกินขนาดอาจทำให้ระคายเคืองหรือเป็นแผลในกระเพาะอาหารและอาจจะทำลายเนื้อเยื้อของปากและลำคอ
- การรับประทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ควรระวังเรื่องเคลือบฟันจะกร่อนและเสียเอาได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ ควรบ้วนปากด้วยทุกครั้ง
- หากทานเป็นเวลานานอาจจะทำให้กระดูกบาง ควรหยุดพักบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้ระคายเคืองภายในจนเกินไป
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ ไม่ควรดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ก่อนและหลังกินยารักษาไทรอยด์
- น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจมีปฏิกิริยากับยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากมีโครเมียมที่อาจเปลี่ยนแปลงระดับอินซูลินได้
การเลือกซื้อและการเก็บรักษาแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา
ควรเลือกซื้อน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ “บรรจุในขวดแก้ว” มีฉลากระบุแหล่งที่ผลิตอย่างชัดเจน มีเครื่องหมาย อย. หรือ เครื่องหมายรับรองคุณภาพ “มอก.” ดูวันหมดอายุร่วมด้วย ยิ่งใหม่ยิ่งคงคุณค่า หลังจากเปิดใช้แล้วให้ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องในที่แห้งและมืด เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและป้องกันการระเหย
ขอบคุณรูปภาพจากhttps://www.tasteofhome.com/article/the-best-apple-cider-vinegar-drink-recipe-how-to-drink-it/
วิธีทานแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา
ให้เขย่าขวดก่อนเพื่อให้เส้นใยฟุ้งขึ้นมา หลังจากนั้นให้เทน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้งอีก 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นเต็มแก้ว แล้วคนให้เข้ากัน ดื่มหลังตื่นนอนตอนเช้าหรือก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็นประมาณ 30 นาที
สำหรับมือใหม่ที่ทดลองดื่มในช่วงแรกอาจจะรู้สึกว่ามันดื่มยากเพราะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แต่ถ้าทนได้ ดื่มไปเรื่อย ๆ ก็จะชินเอง
จะเห็นได้ว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา มีประโยชน์มากแต่ถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลให้ระคายเคืองภายในร่างกายของเราได้ การจะช่วยดูแลสุขภาพที่ดีนอกจากได้ Apple Cider Vinegar เป็นตัวช่วยแล้วควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายได้ใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่เราทานเข้าไปอย่างสูงสุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก