มะเขือเทศเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารประกอบจากพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าสารอาหารเหล่านี้อาจป้องกันโรคต่างๆ รวมทั้งโรคหัวใจและมะเร็งได้ ในวันนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประโยชน์ของซุปมะเขือเทศที่คนรักสุขภาพควรรู้ สาระดีๆที่น่าบอกต่อ ! เพราะเราเชื่อว่าใครหลายคนอาจจะไม่ทราบถึงประโยชน์ของซุปมะเขือเทศกันในบางส่วน ดังนั้นเราจึงจะมาบอกเล่าเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับสาระน่ารู้ในเรื่องนี้กันเลย
มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
มะเขือเทศ (Solanum lycopersicum) มีแคลอรีค่อนข้างน้อย แต่เต็มไปด้วยสารอาหารและสารประกอบจากพืชที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายสำหรับมะเขือเทศต่อ 182 กรัมนั้นจะอุดมไปด้วยแคลอรี่มากถึง 33 และคาร์โบไฮเดรต 7 กรัมไฟเบอร์ 2 กรัมโปรตีน 1.6 กรัมไขมัน 0.4 กรัมวิตามินซี 28% ของ DV วิตามินเค 12% ของ DV วิตามินเอ 8 เปอร์เซ็นต์ของดีวีโพแทสเซียม 9% ของ DV
อีกทั้งในมะเขือเทศยังอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งก็คือไลโคปีน ซึ่งให้ไลโคปีนประมาณ 80% ของ DV ไลโคปีนเป็นเม็ดสีที่ทำให้มะเขือเทศมีสีแดงสด นอกจากนี้ยังดีต่อการส่งเสริมสุขภาพในหลายๆประการเนื่องจากมีผลในการป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ จากงานการวิจัยชี้ให้เห็นว่าร่างกายจะดูดซึมไลโคปีนได้ดีขึ้นเมื่อปรุงสุก ความร้อนอาจเพิ่มการดูดซึมหรืออัตราการดูดซึม เนื่องจากซุปมะเขือเทศนั้นทำจากมะเขือเทศสุก จึงเป็นแหล่งที่ดีของสารประกอบเหล่า
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารประกอบที่ช่วยต่อต้านผลกระทบที่เป็นอันตรายของความเครียด จากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อโมเลกุลที่ทำลายเซลล์ที่เรียกว่าอนุมูลอิสระสะสมในร่างกาย ซุปมะเขือเทศเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งไลโคปีน ฟลาโวนอยด์ และวิตามิน C และ E และอื่น ๆ อีกมากมาย การบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคมะเร็งและโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น โรคอ้วนและโรคหัวใจ
นอกจากนี้จากการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซีและฟลาโวนอยด์ อาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคทางสมองได้ วิตามินอีช่วยเพิ่มผลการต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซี
มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง
มะเขือเทศได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางถึงคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง เนื่องจากมีปริมาณไลโคปีนสูง อาจมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นสาเหตุอันดับที่ห้าของการเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งทั่วโลก และเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองในผู้ชาย
จากการศึกษาหลายชิ้นพบความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการได้รับไลโคพีนในปริมาณสูง โดยเฉพาะจากมะเขือเทศสุก กับความเสี่ยงที่ลดลงของมะเร็งต่อมลูกหมาก การวิจัยชี้ให้เห็นว่าไลโคปีนอาจทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ นอกจากนี้ยังอาจชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอกในกระบวนการที่เรียกว่าการต่อต้านการสร้างเส้นเลือดใหม่ การบริโภคแคโรทีนอยด์ในระดับที่สูงขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ถึง 28% สารแคโรทีนอยด์เหล่านี้ ได้แก่ แอลฟาแคโรทีน เบต้าแคโรทีน และไลโคปีน
แม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้จะเป็นที่น่าพอใจ แต่หลักฐานบ่งชี้ว่าไลโคปีนไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับคนที่จะใช้เป็นยาต้านมะเร็งด้วยตัวมันเอง จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของไลโคปีนอาจรบกวนการรักษาด้วยเคมีบำบัดและการฉายรังสี นอกจากนี้ไลโคปีนและแคโรทีนอยด์อื่นๆ ที่มีอยู่ในซุปมะเขือเทศอาจลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม มะเขือเทศปรุงสุกมีฤทธิ์แรงกว่ามะเขือเทศดิบ
ช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวและการมองเห็น
การรับประทานซุปมะเขือเทศสักชามอาจมีประโยชน์ต่อดวงตาและผิวหนังของคุณด้วย เมื่อพูดถึงสุขภาพผิว เบต้าแคโรทีนและไลโคปีนอาจปกป้องคุณจากการถูกแดดเผาโดยการดูดซับแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เพื่อเพิ่มการป้องกันผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวี
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยในการศึกษาหนึ่งให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี 149 คน รับประทานอาหารเสริมที่มีไลโคปีน 15 มก. เบตาแคโรทีน 0.8 มก. และสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเติมอีกหลายชนิด จากการศึกษาพบว่าอาหารเสริมช่วยปกป้องผิวของผู้เข้าร่วมจากความเสียหายจากรังสียูวีได้อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการวิจัยจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อผิวของคุณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรเปลี่ยนกิจวัตรการดูแลผิวป้องกันแสงแดดตามปกติ อาหารอย่างมะเขือเทศที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์และวิตามินเออาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตาเช่นกัน การกินมะเขือเทศนั้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุหรือการสูญเสียการมองเห็นที่มาพร้อมกับอายุได้
ช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูก
โรคกระดูกพรุนเป็นโรคเรื้อรังที่มีลักษณะความเปราะบางและแตกหักของกระดูกเพิ่มขึ้น ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของวัยหมดระดู จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าไลโคปีนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเมแทบอลิซึมของกระดูกโดยการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการแตกหัก
ด้านอื่นๆ ของเมแทบอลิซึมของกระดูก ได้แก่ ความสมดุลระหว่างเซลล์ที่เรียกว่าเซลล์สร้างกระดูก โดยเซลล์สร้างกระดูกมีหน้าที่ในการสร้างกระดูก ในขณะที่เซลล์สร้างกระดูกมีหน้าที่ในการสลายและการสลายของกระดูก ิจากการศึกษาในสัตว์แสดงให้เห็นว่าไลโคปีนยังมีอิทธิพลต่อการเผาผลาญของกระดูกด้วยการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างกระดูก เพื่อสร้างกระดูกในขณะที่ลดกิจกรรมการสลายตัวของเซลล์สร้างกระดูก
ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
การบริโภคผลิตภัณฑ์มะเขือเทศในปริมาณมากอาจลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและ LDL (ไม่ดี) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสองประการสำหรับโรคหัวใจ ผลกระทบเหล่านี้อาจเป็นเพราะปริมาณไลโคปีนและวิตามินซีของมะเขือเทศ ทั้งไลโคปีนและวิตามินซีช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดเลว ออกซิเดชัน ของคอเลสเตอรอลเป็นปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือด ไลโคปีนยังช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้และปรับปรุงการทำงานของคอเลสเตอรอล HDL (ดี) ในร่างกาย
นอกจากนี้ แคโรทีนอยด์ในมะเขือเทศอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ ความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ สรุปว่าซุปมะเขือเทศอาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงหลายประการสำหรับโรคหัวใจ เนื่องจากมีปริมาณแคโรทีนอยด์และวิตามินซี
ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของเพศชาย
ความเครียดออกซิเดชันเป็นสาเหตุหลักของภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย มันสามารถนำไปสู่ความเสียหายของตัวอสุจิที่ทำให้ความมีชีวิตและการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิลดลง จากการวิจัยชิ้นหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่าการเสริมไลโคปีนอาจเป็นการรักษาภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของไลโคปีนอาจเพิ่มโอกาสในการผลิตสเปิร์มที่แข็งแรงให้มีจำนวนมากขึ้น
และจากในการศึกษาหนึ่งได้พบว่าผู้ชาย 44 คน ที่มีภาวะมีบุตรยากสรุปว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเชิงพาณิชย์ เช่น น้ำมะเขือเทศหรือซุป ช่วยเพิ่มระดับไลโคปีนในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้สเปิร์มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในสัตว์ที่ทดลองและพบว่า ไลโคปีนอาจลดความเสียหายเนื่องจากการรักษาด้วยรังสี ความเสียหายนี้มักเกิดจากจำนวนสเปิร์มที่ลดลง จึงสามารถสรุปได้ว่าไลโคปีนในซุปมะเขือเทศอาจปรับปรุงค่าสเปิร์ม ที่เกี่ยวข้องกับภาวะเจริญพันธุ์ของเพศชาย
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
บางวัฒนธรรมใช้ซุปมะเขือเทศเป็นยาประจำบ้านสำหรับโรคไข้หวัด ในความเป็นจริงปริมาณวิตามินซีและแคโรทีนอยด์อาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณ จากการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าวิตามินซีอาจช่วยป้องกันไข้หวัดและลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการหวัด ดังนั้นการรับประทาน ซุปมะเขือเทศอุ่นๆ สักถ้วยอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้สึกไม่สบาย เนื่องจากมีปริมาณแคโรทีนอยด์และวิตามินซี ทราบอย่างนี้แล้วหากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นไข้หวัด ต้องอย่าลืมรับประทานเมนูซุปมะเขือเทศกันนะคะเพราะอาจช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้
แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในบทความครั้งต่อไป สำหรับวันนี้ต้องขอฝากเรื่องราว ประโยชน์ของซุปมะเขือเทศที่คนรักสุขภาพควรรู้ สาระดีๆที่น่าบอกต่อ ! กันไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ขอขอบคุณในทุกๆการติดตามที่มีอย่างเสมอมา ขอให้คุณโชคดีและมีสุขภาพแข็งแรงในทุกๆวันค่ะ
