คุณทราบหรือไม่ว่าในเครื่องเทศที่เรียกกันว่าอบเชยนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และมีสารประกอบที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการ ซึ่งหลักฐานได้ถูกระบุตามงานวิจัยต่างๆเอาไว้อย่างมากมาย ในครั้งนี้เราจะพาคุณมาทราบถึง ประโยชน์ของอบเชยที่ดีต่อสุขภาพ ที่คนรักสุขภาพควรรู้ ! ที่จะมาบอกถึงประโยชน์และคุณสมบัติต่างๆของอบเชยให้คุณได้ทราบกันมากยิ่งขึ้นหากอยากทราบถึงรายละเอียดที่น่าสนใจเหล่านี้กันแล้วก็อย่ารอช้าค่ะ เราไปทราบพร้อมๆกันได้เลย

Share on Pinterest
มีสรรพคุณทางยาที่ทรงพลัง
อบเชยเป็นเครื่องเทศที่ทำจากเปลือกไม้ชั้นในของต้นไม้ที่รู้จักกันในทางวิทยาศาสตร์ว่า Cinnamomum มันถูกใช้เป็นส่วนผสมในการนำมาปรุงอาหารปรุงยาและใช้ประโยชน์มาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยโบราณ ย้อนหลังไปถึงอียิปต์โบราณเคยเป็นของหายากและมีค่า ถือเป็นของขวัญที่เหมาะสำหรับกษัตริย์ ทุกวันนี้ อบเชยมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่
ทั้งยังพบเป็นส่วนประกอบในอาหารและสูตรอาหารต่างๆ อบเชยมีสองประเภทหลักคืออบเชยศรีลังกาชนิดนี้เรียกอีกอย่างว่าอบเชยแท้ และ อบเชย Cassia ซึ่งนี่เป็นพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปัจจุบันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปหาซื้อได้ง่ายมักจะเรียกว่า “อบเชย” อบเชยนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกนำมาตัดลำต้นและถูกนำส่วนเปลือกชั้นในไปใช้ เปลือกชั้นในจะถูกสกัดออกและเอาส่วนที่เป็นไม้ออก เมื่อแห้งแล้วผู้คนก็มักจะนำไปม้วนเป็นม้วนเรียกว่าแท่งอบเชย ไม้เหล่านี้สามารถนำมาบดได้ หากบดก็จะเรียกว่าเป็นผงอบเชย กลิ่นและรสที่แตกต่างของอบเชยเกิดจากส่วนที่เป็นน้ำมัน ซึ่งมีสารประกอบซินนามาลดีไฮด์อยู่สูงมาก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารประกอบนี้ มีผลอย่างมากต่อสุขภาพและการเผาผลาญของอบเชย
งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่าอาจช่วยสนับสนุนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ และลดการอักเสบ อบเชยเป็นเครื่องเทศที่ได้รับการยกย่องในด้านคุณสมบัติทางยามาเป็นเวลาหลายพันปี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้เริ่มยืนยันถึงประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นอกจากนี้คุณยังามารถนำมาผสมกับกาแฟเพื่อทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ด้วยเช่นกัน

เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระสามารถปกป้องร่างกายของคุณจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ และอบเชยก็เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งโพลีฟีนอล การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการเสริมอบเชยสามารถเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ลดระดับของการบ่งชี้ในทางอักเสบ เช่น โปรตีน C-reactive ในความเป็นจริงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของอบเชยนั้นทรงพลังมาก จนสามารถใช้เป็นสารถนอมอาหารตามธรรมชาติได้

อาจมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
การอักเสบมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากช่วยให้ร่างกายของคุณตอบสนองต่อการติดเชื้อและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตามการอักเสบอาจกลายเป็นปัญหาได้หากเกิดเป็นเรื้อรังและส่งผลโดยตรงต่อเนื้อเยื่อของร่างกายคุณ นอกจากนี้อบเชยยังอาจมีประโยชน์ในเรื่องนี้ จากการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเครื่องเทศนี้และสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่มีศักยภาพได้ซึ่งส่งผลที่อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆได้
และอีกหนึ่งวิธีที่เราอยากจะขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ทราบก็คือ หากคุณเป็นผู้ที่ชอบการดื่มกาแฟเป็นเดิมอยู่แล้วนั้น อยากให้คุณลองนำการอบเชยมาประดับเอาไว้ในแก้วกาแฟดำของคุณ เพื่อเป็นการเสริมกลิ่นหอมให้กับกาแฟได้มากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเมนูลดน้ำหนักที่คุณสามารถลดความอยากในการรับประทานของหวานหรือน้ำตาลได้อีกด้วย

สามารถป้องกันโรคหัวใจ
อบเชยเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ทั่วโลก จากการทบทวนของการศึกษาหนึ่งพบว่า การเสริมอบเชยอย่างน้อย 1.5 กรัม (g) หรือประมาณ 3/4 ช้อนชา (ช้อนชา) ต่อวัน สามารถลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) และ น้ำตาลในเลือดในผู้ที่เป็นโรคเมตาบอลิซึม
และจากการทบทวนผลการศึกษาอีก 13 ชิ้น พบว่าอบเชยสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลได้ รวมถึงทั้งสองอย่างนี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากอบเชยยังช่วยลดความดันโลหิตเมื่อบริโภคอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์ เมื่อรวมกันแล้วปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้


สามารถปรับปรุงความไวต่ออินซูลิน
อินซูลินเป็นหนึ่งในฮอร์โมนสำคัญที่ควบคุมการเผาผลาญและการใช้พลังงาน ทั้งยังจำเป็นสำหรับการขนส่งน้ำตาลในเลือดจากกระแสเลือดไปยังเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตามบางคนไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ของอินซูลินได้ สิ่งนี้เรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นจุดเด่นของสภาวะต่างๆ เช่น กลุ่มอาการเมตาบอลิซึมและเบาหวานชนิดที่ 2 ในขณะที่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
และจากการศึกษาบางชิ้นได้แนะนำว่าอบเชยอาจลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ โดยการเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งอบเชยสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและสนับสนุนการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น

มีผลดีต่อโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท
โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาทมีลักษณะเฉพาะ คืออาจมีการสูญเสียโครงสร้างหรือการทำงานของเซลล์ประสาทมากขึ้น โรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสันเป็นสองประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด แต่สารประกอบบางอย่างที่พบในอบเชย ดูเหมือนจะยับยั้งการสะสมของโปรตีน ที่เรียกว่าเอกภาพในสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโรคอัลไซเมอร์
ในการศึกษาปี 2014 ที่ได้ทำการศึกษาในหนูทดลองที่เป็นโรคพาร์กินสัน พบว่าอบเชยช่วยปกป้องเซลล์ประสาท ทำให้ระดับสารสื่อประสาทเป็นปกติ และปรับปรุงการทำงานของมอเตอร์ อย่างไรก็ตามผลกระทบเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ โดยรวมแล้วอบเชยแสดงให้เห็นว่านำไปสู่การปรับปรุงต่างๆ สำหรับโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน

อบเชยอาจป้องกันมะเร็งได้
อบเชยได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางว่าสามารถใช้ในการป้องกันและรักษามะเร็งได้ โดยรวมแล้ว หลักฐานจำกัดอยู่แค่ในหลอดทดลอง จากการศึกษาในสัตว์ซึ่งแนะนำว่าสารสกัดจากอบเชยอาจป้องกันมะเร็งได้ จะออกฤทธิ์โดยลดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง และการก่อตัวของหลอดเลือดในเนื้องอก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์ตาย
จากการศึกษาหนึ่งในหนูที่เป็นมะเร็งรังไข่พบว่าซินนามาลดีไฮด์ สามารถขัดขวางการแสดงออกของโปรตีนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของมะเร็ง จากการค้นพบนี้ได้รับการสนับสนุนจากการทดลองในหลอดทดลอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าซินนามาลดีไฮด์สามารถลดการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งรังไข่ได้ อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประเมินฤทธิ์ต้านมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นของอบเชยในมนุษย์

อาจป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
ซินนามาลดีไฮด์ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของอบเชย อาจมีประโยชน์ต่อการติดเชื้อหลายชนิด จากกการศึกษาในหลอดทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำมันอบเชยสามารถช่วยฆ่าเชื้อราบางชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้
นอกจากนี้ยังอาจยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด รวมทั้ง Listeria และ Salmonella
นอกจากนี้ ฤทธิ์ต้านจุลชีพของอบเชยยังอาจช่วยป้องกันฟันผุและลดกลิ่นปาก อย่างไรก็ตามหลักฐานส่วนใหญ่ยังจำกัดอยู่เฉพาะการศึกษาในหลอดทดลอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อทราบถึงข้อเท็จจริงและประโยชน์ต่างๆ

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเรื่องราวของ ประโยชน์ของอบเชยที่ดีต่อสุขภาพ ที่คนรักสุขภาพควรรู้ ! ที่ได้นำประโยชน์ของอบเชยมาฝากท่านผู้อ่านกันในที่นี้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนั้นอบเชยหาซื้อได้ง่าย และไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อนจึงทำให้คุณสามารถเลือกซื้ออบเชย มาติดบ้านติดครัวเอาไว้ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อทราบถึงประโยชน์อย่างนี้แล้วต้องอย่าลืมมันบริโภคอบเชยกันให้มากยิ่งขึ้นนะคะ สำหรับวันนี้พวกเราทีมงานต้องขอขอบพระคุณในทุกๆการติดตามอ่านที่มีอย่างเสมอมา แล้วพบกันใหม่กับบทความในครั้งต่อไปค่ะวันนี้สวัสดีค่ะ