โดยส่วนใหญ่แล้วเปลือกของผลไม้ต่างๆมักจะถูกปอกทิ้ง แต่ผลไม้ก็มีอยู่หลากหลายชนิดที่ยังสามารถรับประทานเปลือกได้ ยกตัวอย่างเช่นแอปเปิ้ลและฝรั่ง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในครั้งนี้เราจะมาพูดกันถึงหัวข้อ คุณควรปอกเปลือกผักและผลไม้หรือไม่ เพราะอะไร สาระน่ารู้ที่ควรบอกต่อ ! เพราะเราเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่รักสุขภาพเป็นเดิมแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่หลังจากรับประทานเปลือกผลไม้นั้นเราควรนำมาเสียก่อน และต้องมั่นใจว่าสามารถรับประทานเปลือกได้จริงๆอย่างปลอดภัย ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสาระน่ารู้ในเรื่องนี้กันเลยดีกว่า
เปลือกเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
เปลือกเต็มไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ปริมาณสารอาหารที่มีอยู่จะแตกต่างกันไปตามชนิดของผลไม้หรือผัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผลผลิตที่ไม่ได้ปอกเปลือกจะมีปริมาณวิตามิน แร่ธาตุ และสารประกอบจากพืชที่มีประโยชน์อื่นๆ ในปริมาณที่สูงกว่าผลผลิตที่ปอกเปลือก
ในความเป็นจริงแล้วแอปเปิลดิบที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกจะมีวิตามินเคมากกว่าถึง 332% และมีวิตามินเอมากกว่า 142% มีวิตามินซีมากกว่า 115% แคลเซียมมากกว่า 20% และโพแทสเซียมมากกว่าแอปเปิลปอกเปลือกแล้วถึง 19% และในทำนองเดียวกันมันฝรั่งต้มทั้งเปลือกมีวิตามินซีมากกว่าถึง 175% โพแทสเซียม 115% โฟเลตมากกว่า 111% และแมกนีเซียมและฟอสฟอรัสมากกว่ามันฝรั่งถึง 110%
เปลือกผักบางชนิดยังมีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น สามารถพบไฟเบอร์ได้มากถึง 31% ของปริมาณไฟเบอร์ทั้งหมดในผักที่ผิวหนัง นอกจากนี้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระยังสูงกว่าในเปลือกผลไม้ถึง 328 เท่า ดังนั้นการรับประทานผักและผลไม้ที่ไม่ปอกเปลือกสามารถเพิ่มปริมาณสารอาหารของคุณได้อย่างแท้จริง
การไม่ปอกเปลือกอาจช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น
เปลือกผักและผลไม้สามารถลดความหิวและช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น นี่เป็นเหตุผลหลักเนื่องจากการมีเส้นใยในปริมาณสูง แม้ว่าปริมาณไฟเบอร์จะแตกต่างกันไป แต่ผักและผลไม้สดอาจมีไฟเบอร์มากกว่า 1 ใน 3 ก่อนที่ชั้นนอกจะถูกลอกออก
จากการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าไฟเบอร์สามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น ไฟเบอร์อาจทำสิ่งนี้ได้โดยการยืดกระเพาะอาหาร โดยชะลอความรวดเร็วในการระบายออก หรือมีอิทธิพลต่อความเร็วที่ฮอร์โมนความอิ่มจะหลั่งออกมาในร่างกายของคุณ
ในความเป็นจริง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าไฟเบอร์ประเภทที่พบในผักและผลไม้ ซึ่งเรียกว่าไฟเบอร์หนืด อาจมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดความอยากอาหาร อีกทั้งไฟเบอร์ยังทำหน้าที่เป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียที่เป็นมิตรซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้ของคุณ เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้กินไฟเบอร์ พวกมันจะสร้างกรดไขมันสายสั้น ซึ่งดูเหมือนจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม และยิ่งไปกว่านั้นงานวิจัยหลายชิ้นได้สังเกตว่าอาหารที่มีเส้นใยสูงมักจะลดความหิว ดังนั้นจำนวนแคลอรี่ที่บริโภคต่อวันจึงอาจทำให้น้ำหนักลดลงได้ ดังนั้นผักและผลไม้ที่ไม่ปอกเปลือกอาจช่วยให้คุณลดความหิวและแม้แต่ลดน้ำหนักได้
เปลือกอาจช่วยป้องกันโรคบางชนิดได้
ผักและผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์จากพืช ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ พูดง่ายๆ ก็คือหน้าที่หลักของสารต้านอนุมูลอิสระจพทำการต่อสู้กับโมเลกุลที่ไม่เสถียร ที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ
ซึ่งอนุมูลอิสระในระดับสูงสามารถทำให้เกิดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนั่นสามารถทำร้ายเซลล์และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้
อันที่จริงนักวิจัยเชื่อว่าสารต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิดได้ สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดที่พบในผักและผลไม้ ทั้งยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคทางระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ ผักและผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงตามธรรมชาติ
แต่จากการวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีความเข้มข้นมากกว่าในชั้นนอก ในการศึกษาหนึ่งพบว่าระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเปลือกผักและผลไม้สูงกว่าเนื้อในของผลไม้ถึง 328 เท่า ดังนั้นหากคุณต้องการรับสารต้านอนุมูลอิสระจากผักและผลไม้ให้ได้มากที่สุด คุณควรรับประทานโดยไม่ปอกเปลือก
เปลือกบางชนิดอาจทำความสะอาดยากหรือกินไม่ได้
เปลือกผลไม้หรือผักบางชนิดอาจกินยากหรือกินไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เปลือกของอะโวคาโดและแตงโม ถือว่ากินไม่ได้ ไม่ว่าจะบริโภคแบบสุกหรือแบบดิบก็ตาม เปลือกผลไม้และผักอื่นๆ เช่น เปลือกจากสับปะรด ทุเรียน หัวหอม และมะม่วง อาจมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวจนยากต่อการเคี้ยวและย่อยรวมถึงยางที่อาจมีอยู่ภายนอก โดยทั่วไปเปลือกเหล่านี้ควรลอกออกและไม่ควรรับประทาน
นอกจากนี้แม้ว่าเปลือกผักบางชนิดจะถือว่ารับประทานได้ แต่ผักส่วนใหญ่มักไม่น่ากินนักเมื่อรับประทานแบบดิบๆ ตัวอย่างคือสควอชฤดูหนาวและเปลือกฟักทอง ซึ่งควรบริโภคหลังจากปรุงสุกแล้วเพื่อให้เปลือกนิ่ม
ผลไม้รสเปรี้ยวยังมีเปลือกที่แข็งและมีรสขมที่ยากต่อการบริโภคดิบ โดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้ควรบริโภคอย่างเอร็ดอร่อยหรือปรุงสุกหรือทิ้งไป
สำหรับเปลือกผักและผลไม้บางชนิดแม้จะรับประทานได้ทั้งหมด แต่อาจมีรสขม หรือเคลือบด้วยชั้นของขี้ผึ้ง ซึ่งในบางทีอาจมีสิ่งสกปรกที่แกะออกได้ยากเป็นพิเศษ หากคุณต้องการกินผักและผลไม้เหล่านี้ ควรล้างให้สะอาดก่อนจะทำการปอกเปลือก อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เปลือกบางอย่างอาจมียาฆ่าแมลง
สารกำจัดศัตรูพืชมักใช้เพื่อลดความเสียหายของพืชผลและเพิ่มผลผลิต ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่แพร่หลายว่าสารกำจัดศัตรูพืชสามารถพบได้ในผักและผลไม้ทั้งแบบออร์แกนิกและแบบธรรมดา แม้ว่าสารกำจัดศัตรูพืชบางชนิดจะเข้าสู่เนื้อผักและผลไม้ แต่หลายชนิดยังคงอยู่ในเปลือกนอก ดังนั้นการล้างเป็นวิธีที่ดีในการกำจัดยาฆ่าแมลง ซึ่งมักตกค้างอยู่ที่ผิวของเปลือกบนผักต่างๆอย่างหลวมๆ อย่างไรก็ตามการปอกเปลือกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดยาฆ่าแมลงที่ซึมเข้าสู่ผิวผักและผลไม้
การทบทวนเมื่อเร็วๆ นี้รายงานว่าประมาณ 41% ของยาฆ่าแมลงตกค้างที่พบในผลไม้ถูกกำจัดออกด้วยการล้างด้วยน้ำ ในขณะที่มากถึง 2 เท่าถูกกำจัดออกผ่านการปอกเปลือก สำหรับหลายๆคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับการได้รับสารกำจัดศัตรูพืชโดยรวม นี่อาจเป็นเหตุผลที่ดีพอที่จะรับประทานเฉพาะเนื้อของผักและผลไม้ทั้งหมด
ปริมาณของสารกำจัดศัตรูพืชที่อนุญาตให้ใช้กับอาหารสดมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ระดับของสารกำจัดศัตรูพืชจะถูกจำกัดสูงสุดโดยอนุญาติให้ใช้น้อยกว่า 4% ของจำนวนพืชผักทั้งหมดที่ทำการปลูก และแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ยังมีการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้แทบไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ ดังนั้นการเอาเปลือกผักออกอาจกำจัดยาฆ่าแมลงได้มากกว่าการล้าง
เปลือกผักผลไม้ชนิดใดที่ปลอดภัยและสามารถกินได้ ?
เปลือกบางชนิดรับประทานได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่บางชนิดอาจไม่ปลอดภัยสำหรับการกิน ดังต่อไปนี้ ผักและผลไม้ที่ควรปอกเปลือกซึ่งได้แก่ อาโวคาโด , ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว (ส้มโอ มะนาว มะนาว ส้ม ฯลฯ), กระเทียม, สควอชฤดูหนาว , แตงโม, หัวหอม, ผลไม้เมืองร้อน (ลิ้นจี่ สับปะรด มะละกอ ฯลฯ)
สำหรับเปลือกผักและผลไม้ที่กินได้ทั้งมีประโยชน์คือ แอปเปิล แอปริคอท หน่อไม้ฝรั่ง กล้วย ผลเบอร์รี่แครอท เชอร์รี่ แตงกวา มะเขือ องุ่น กีวี่ เห็ด หัวผักกาด ถั่ว ลูกพีช ลูกแพร์ พริกไทย พลัม มันฝรั่ง สควอช บวบ
ผักและผลไม้บางชนิด เช่น สับปะรด กระเทียม และแตงโม ควรปอกเปลือกออกดีที่สุด ส่วนอื่นๆ เช่น แอปเปิ้ล มะเขือม่วง และลูกพลัม ควรบริโภคทั้งเปลือก ซึ่งเปลือกจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เป็นหนึ่งในส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดของพืช ผักและผลไม้บางชนิดมีเปลือกที่แข็ง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเรื่องราวของ คุณควรปอกเปลือกผักและผลไม้หรือไม่ เพราะอะไร สาระน่ารู้ที่ควรบอกต่อ ! ที่ได้นำมาฝากกันไปเมื่อสักครู่นี้ น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย หากเป็นไปได้ลองหันมารับประทานเปลือกผลไม้กันดูนะคะ เพื่อสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งต่อไปสวัสดีค่ะ
