วิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อน เคล็ดลับแบบง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง ! 

สุขภาพ

สารบัญ

เพราะการเกิดอาการกรดไหลย้อนนั้น ไม่ใช่อาการที่ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงควรจะเป็น ดังนั้นเราจึงควรมีวิธีในการดูแลตัวเองเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อนให้มากที่สุด ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวม วิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อน เคล็ดลับแบบง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง ! มาฝากกันไว้ที่นี่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของอาการกดไหลย้อน ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ มารวมกันไว้ที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากอยากทราบกันแล้วว่ามีอะไรบ้างเราไปชมพร้อมๆกันเลยดีกว่า

1. แบ่งมื้ออาหารย่อย ๆ

1. แบ่งมื้ออาหารย่อย ๆ

สำหรับวิธีแรกเลยก็คือ แบ่งมื้ออาหารย่อย ๆ เนื่องจากการรับประทานอาหารครั้งละที่มีปริมาณมากๆนั้น อาจยิ่งทำให้อาการของกดไกลย้อนนั้นกำเริบได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและมีอาการท้องอืดท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อย ดังนั้นการแบ่งมื้ออาหารจากเดิมออกมาเป็น 3 มื้อ เพื่อแบ่งรับประทานครั้งละนิดหน่อย ก็จะทำให้อาการกรดไหลย้อนนั้นหายไปได้ และไม่ควรดื่มน้ำตามในปริมาณมากๆขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่

2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรรับประทาน

2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรรับประทาน

และสิ่งที่ควรทำต่อไปก็คือ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรรับประทาน ซึ่งก็คืออาหารประเภททอด อาหารประเภทที่ต้องใช้น้ำมันมากๆ เช่นเนื้อติดมันทอดต่างๆ มันฝรั่งทอด ไก่ชุปแป้งทอดต่างๆ  รวมไปถึงเครื่องดื่มประเภทชูกำลัง และเครื่องดื่มที่มีการผสมแอลกอฮอล์ กาแฟ และน้ำอัดลมด้วยเช่นกัน เนื่องจากในน้ำอัดลมนั้นมีแก๊สอยู่มาก 

เมื่อดื่มเข้าไปก็จะทำให้เป็นการเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหารได้ จึงส่งผลทำให้น้ำย่อยที่เป็นกรดเคลื่อนที่ไปยังหลอดอาหารมากขึ้น และเป็นการเพิ่มอาการของกรดไหลย้อนได้เช่นกัน การดื่มน้ำเปล่าถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด นอกจากนี้สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือช็อกโกแลต ลูกอม ถั่ว เปเปอร์มิ้น เนยไข่ 

3. งดสูบบุหรี่

3. งดสูบบุหรี่

และหากในกรณีที่คุณเป็นสิงห์อมควัน ต้องขอบอกเลยว่าหากคุณไม่ต้องการเป็นโรคกรดไหลย้อนคุณควร งดสูบบุหรี่ และเลิกสูบอย่างถาวร เนื่องจากในบุหรี่นั้นมีสารนิโคตินที่เป็นอันตรายจนอาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหาร สามารถหย่อนคล้อยลงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้น้ำย่อยที่เป็นกรดนั้น มีการเคลื่อนที่หรือไหลไปสู่ส่วนอื่นๆในร่างกายได้ไม่ว่าจะเป็น คอ ปาก หรือหลอดอาหาร นั่นเอง

4. เช็กยาที่ใช้อยู่

4. เช็กยาที่ใช้อยู่

ต่อมาสิ่งที่คุณควรทำก็คือการ เช็กยาที่ใช้อยู่  ว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่ต่อการเกิดอาการกรดไหลย้อน เพราะยาต่างๆโดยเฉพาะยาของกลุ่มคนในวัยทอง , ยาต้านเศร้าในกลุ่มไตรไซคลิก และยาแก้อักเสบบางชนิดนั้น สามารถส่งผลอาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหย่อนคล้อยได้ ดังนั้นการที่คุณจะรับประทานยาใดๆทุกชนิด คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสร็จก่อน โดยเฉพาะหากคุณมีอาการของกรดไหลย้อนเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง

5. นั่งหลังพิงเก้าอี้ในท่าเงยหน้า 

5. นั่งหลังพิงเก้าอี้ในท่าเงยหน้า 

สำหรับอาการกรดไหลย้อนที่กำลังกำเริบ ซึ่งอาจทำให้คุณไม่สามารถนอนเอนตัวในพื้นที่ราบได้ เนื่องจากกรดที่มีการเคลื่อนย้ายมาบริเวณหน้าอก สิ่งที่เราควรทำก็คือ นั่งหลังพิงเก้าอี้ในท่าเงยหน้า  จากนั้นให้คุณหาหมอนสามเหลี่ยมมาไว้หนุนหลัง เพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้นและช่วยทำให้อาการกรดไหลย้อนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นหายไป

6. นั่งหลังตรงหลังมื้ออาหาร

6. นั่งหลังตรงหลังมื้ออาหาร

และทุกครั้งหลังจากที่คุณเพิ่งจะรับประทานอาหารเสร็จ คุณไม่ควรจะนั่งหลังค่อม สิ่งที่คุณควรทำก็คือ นั่งหลังตรงหลังมื้ออาหาร  หรือนั่งในท่าสบายสบายแต่ไม่ควรนอน เพื่อไม่ให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเคลื่อนที่ หรือไหลย้อนมาสู่บริเวณกลางหน้าอกจนอาจทำให้เรารู้สึกแสบได้ ทางที่ดีก่อนที่คุณจะเข้านอนนั้น

คุณควรจัดการรับประทานอาหารให้เรียบร้อย ก่อนเข้านอนอย่างน้อยประมาณ 3-4 ชั่วโมง รวมไปถึงหลังจากที่รับประทานอาหารมื้อกลางวันเสร็จแล้วก็ไม่ควรเอนหลังหรือนอนเช่นกัน เพราะอาจทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้นั่นเอง

7. พยามอย่าเคลื่อนไหวร่างกายเร็วเกินไป

7. พยามอย่าเคลื่อนไหวร่างกายเร็วเกินไป

และต่อไปก็คือ พยามอย่าเคลื่อนไหวร่างกายเร็วเกินไป อย่างเช่นการออกกำลังกายแบบหนักๆ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จภายใน 2- 3 ชั่วโมง หรือโดยเฉพาะในเวลาที่เพิ่งรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ เพราะจะยิ่งทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้ ให้คุณหันมาบริหารร่างกายแบบเบาๆ โดยการลองเปลี่ยนเป็นเดินช้าๆเพื่อเป็นการย่อยอาหาร หรือนั่งพักก่อนหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว แต่ไม่ควรเอนหลังนอนทันที

8. ลดน้ำหนัก

8. ลดน้ำหนัก

และอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำในกรณีที่คุณมีน้ำหนักตัวมากจนเกินไปซึ่งก็คือการ ลดน้ำหนัก ซึ่งคุณควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยยึดจากส่วนสูงที่มี ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยลดการเกิดกรดไหลย้อนในร่างกายไม่ให้กำเริบขึ้นมาได้ และหากในกรณีที่คุณต้องการรับประทานอาหารเสริม เพื่อลดน้ำหนัก หรือเสริมภูมิคุ้มกันต่างๆ

คุณจำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน ว่าสารที่อยู่ในอาหารต่างๆนั้น มีผลต่อการเกิดอาการกรดไหลย้อนหรือมีผลต่อสุขภาพในด้านอื่นๆหรือไม่ การตรวจสอบและเช็คร่างกายของคุณให้ดีย่อมถือเป็นสิ่งสำคัญ ทางที่ดีควรลดด้วยวิธีธรรมชาติ เพราะไม่ส่งผลกระทบที่ไม่ดีใดๆต่อร่างกาย อีกทั้งร่างกายยังสามารถผลิตฮอร์โมน ที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายของคุณ กลับมาแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อน เคล็ดลับแบบง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง 2

อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราทุกคนควรทำ ซึ่งพวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของ วิธีป้องกันอาการกรดไหลย้อน เคล็ดลับแบบง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง ! ที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่านเพื่อสามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตจริง สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนแล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ใหม่ในครั้งต่อไป สำหรับครั้งนี้หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ขอให้คุณโชคดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ

Poster 24

Poster 24

ผู้คว่ำหวอดในวงการสุขภาพแนวหน้าในประเทศไทย

รวมเรื่องน่ารู้สำหรับพ่อแม่มือใหม่

เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับผู้หญิง

ดูแลผิวพรรณ เส้นผม เครื่องสำอาง