การจาม มีน้ำมูกไหล และน้ำตาไหล ในผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยแล้วมักจะเป็นหวัด 2-3 ครั้งต่อปี ซึ่งไวรัสมากกว่า 200 ชนิด สามารถทำให้เกิดหวัดได้ ดังนั้นยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียจึงไม่ได้ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น ในครั้งนี้เราจะมาพูดกันถึงหัวข้อ ทำอย่างไรจึงจะหายจากการเป็นไข้หวัดได้เร็วขึ้น เรื่องน่ารู้ที่ไม่ควรพลาด ! เพราะเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านในทุกเพศทุกวัยได้ไม่น้อย และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปพบกับสาระน่ารู้ในเรื่องนี้กันเลยดีกว่า
รักษาความชุ่มชื้นโดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ
แม้ว่าจะมีข้อถกเถียงกันอยู่เสมอถึงการมีของเหลวส่วนเกินในร่างกายนั้นจะช่วยอาการหวัดของคุณได้จริงหรือไม่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือภาวะขาดน้ำนั้นยิ่งทำให้อาการต่างๆแย่ลง ดังนั้นร่างกายของคุณจึงต้องการของเหลวให้เกิดการเคลื่อนไหวในร่างกาย เพื่อให้ตัวเองสามารถมีแรงรวมถึงสามารถขับเสมหะบางๆได้ หากคุณมีอาการเช่นปากแห้งหรือริมฝีปากแห้ง ให้ดื่มน้ำมากขึ้น
วิธีการปฏิบัติเพื่อรักษาอาการคือการดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อน จะช่วยเพิ่มความแน่ใจว่าคุณจะไม่ขาดน้ำ อีกทั้งน้ำแข็งหรือไอติมแท่งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย ถึงแม้จะดูย้อนแแย้งกันสักหน่อย
รับประทานซุปไก่ร้อนๆ
ปรากฎว่าซุปไก่อาจช่วยได้เมื่อคุณเป็นหวัด จากบทความใน Pan Asian Journal of Medical Education ที่ระบุว่าซุปไก่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ที่อาจช่วยเพิ่มความต้านทานการไหลเวียนของอากาศในช่องจมูก ทำให้หายใจได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณเป็นหวัด
เนื่องจากซุปไก่ที่มีโซเดียมต่ำและมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น แครอท ขึ้นฉ่ายฝรั่ง และหัวหอม สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เมื่อคุณเป็นหวัด นอกจากนี้ยังสามารถจิบชาร้อนหรือน้ำอุ่นก็สามารถช่วยได้ หรือในบางคนอาจชอบจิบน้ำอุ่นที่ผสมน้ำมะนาว น้ำผึ้ง หรือแม้แต่ขิงลงไปด้วยก็ได้ เพื่อลดอาการเจ็บคอดังกล่าว
กินน้ำผึ้งหนึ่งช้อนโต๊ะ
คุณทาบหรือไม่ว่าน้ำผึ้ง 1 ช้อนสามารถช่วยลดอาการไอเมื่อคุณเป็นหวัดได้ เหนือสิ่งอื่นใดยังสามารถใช้กับเด็กได้เช่นกัน (แต่ควรหลีกเลี่ยงในเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือน) บทความที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Family Practice รายงานว่าน้ำผึ้งก่อนนอนช่วยลดอาการไอในเด็กได้ บทความระบุว่ามีการทดสอบน้ำผึ้งหลายประเภท และทั้งหมดนี้ช่วยลดอุบัติการณ์ของการไอได้
ใช้เครื่องทำความชื้นหรือเครื่องทำไอระเหยช่วยให้หายใจสะดวก
เครื่องทำความชื้นและเครื่องพ่นไอน้ำมีจำหน่ายที่ร้านขายยาส่วนใหญ่ พวกเขาเพิ่มความชื้นในอากาศซึ่งสามารถช่วยคลายเสมหะและทำให้หายใจสะดวก ซึ่งผู้คนจำนวนมากจะเปิดเครื่องทำความชื้นในตอนเย็นก่อนนอนเมื่ออาการไอแย่ลง
หากคุณมีเจ้าเครื่องเหล่านี้อยู่ที่บ้านให้ใช้เครื่องพ่นไอเย็น เครื่องทำความชื้นที่มีองค์ประกอบความร้อนและน้ำร้อน สามารถช่วยได้โดยอ่านคำแนะนำของผู้ผลิตที่ติดอยู่ที่ผลิตภัณฑ์เสมอและใช้ตาม จากนั้นหลังการใช้งานแล้วต้องอย่าลืม ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆทุกครั้งนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและลดแบคทีเรียด้วยเช่นกัน
ใช้น้ำเกลือพ่นจมูก
น้ำเกลือพ่นจมูกอาจช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและลดอาการหวัดได้ โดยคุณสามารถซื้อน้ำเกลือพ่นจมูกได้ที่เคาน์เตอร์มาทำเองที่บ้าน โดยการใช้ต้มน้ำหรือประปาสะอาด 1 ถ้วย ในภาชนะที่สะอาด เติมเกลือครึ่งช้อนชาผสมแล้วคนให้ทั่ว ตามด้วยนำมาเทลงในกระบอกฉีดยาทางการแพทย์หรือขวดสเปรย์ฉีดจมูกที่สะอาด จากนั้นสอดเข็มฉีดยาหรือหลอดสวนเข้าไปในจมูก
โดยเงยศีรษะของคุณให้แหงนขึ้นในขณะที่เอียงศีรษะไปทางด้านข้าง คุณจะพบว่ามีน้ำไหลออกมาจากรูจมูกอีกข้างหนึ่งหรือออกจากปากของคุณ สามารถทำได้แม้ในขณะอาบน้้า
รับประทานอาหารเสริมสังกะสี
จากการทบทวนการทดลองของคลินิกในประเทศสหรัฐอเมริกา 18 รายการ เกี่ยวกับสังกะสีและโรคไข้หวัด แนะนำว่าการรับประทานสังกะสีภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีอาการหวัดสามารถช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ ซึ่งผู้ที่รับประทานสังกะสีหรือใช้ยาอมสังกะสีในปริมาณ 75 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไป มักจะมีอาการจามน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
นักวิจัยไม่แนะนำให้รับประทานสังกะสีเพื่อป้องกันโรคหวัด โปรดจำไว้ว่าปริมาณสังกะสีที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดอาการเช่นคลื่นไส้หรือรสชาติที่ไม่ดีในปากของคุณได้ ดังนั้นคุณอาจต้องรักษาสมดุลของผลประโยชน์กับผลข้างเคียง
สามารถใช้ยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์
ยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) เช่น ไอบูโพรเฟน อะเซตามิโนเฟน หรือนาโพรเซน สามารถช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และอาการปวดหัวที่มักเกิดร่วมกับการเป็นหวัดได้ แต่โปรดทราบไว้ว่าคุณควรใช้ยาแก้ปวดยี่ห้อเดียวกันในแต่ละครั้งไม่ควรใช้หลายยี่ห้อรวมกันในครั้งเดียว
ลองใช้ยาลดน้ำมูกยาสำหรับอาการคัดจมูก
ยาลดน้ำมูกหรือยาพ่นจมูกสามารถช่วยให้น้ำมูกส่วนเกินแห้งได้ วิธีนี้สามารถลดอาการคัดจมูกหรือเสมหะที่ไอได้ยาก ยาลดอาการคัดจมูกในช่องปากส่วนใหญ่มีทั้งฟีนิลเอฟรีนหรือซูโดอีเฟดรีน ดังนั้นเราควรอ่านฉลากข้างกล่องก่อนใช้ยาทุกครั้งอย่างระมัดระวัง และโปรดทราบว่าคุณไม่ควรใช้ยาพ่นจมูกส่วนใหญ่ เช่น ออกซีเมตาโซลีน ติดต่อกันเกินสามวัน หากคุณมีผลข้างเคียง เช่น วิงเวียนศีรษะหรือมีปัญหาในการนอนหลับ คุณอาจต้องหยุดใช้อาการเหล่านี้แล้วตามด้วยการพบแพทย์ทันทีไม่ควรปล่อยไว้
ลองยาอมหรือยาอมแก้ไอ
ยาแก้ไอสามารถช่วยให้คอไม่แห้ง นอกจากนี้ยังสามารถมีส่วนผสมที่สามารถลดอาการไอและอาการหวัดได้ด้วย ในปัจจุบันมีขายอย่างมากมายไม่ว่าจะในรูปแบบลูกอมหรือในรูปแบบยาน้ำ หากเป็นรูปแบบยาอมก็สามารถพกพาและรับประทานได้ง่ายขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้
พักผ่อน
แม้ว่าสิ่งนี้อาจดูเหมือนเป็นคำแนะนำพื้นฐาน แต่ก็เป็นคำแนะนำที่ดี การปล่อยให้ร่างกายของคุณมีเวลาในการรักษาโดยการนอนหลับและพักผ่อนสามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ และการนอนนั้นควรเป็นการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ร่างกายได้ร่วมเยียวยาตนเอง และปรับสมดุลในการทำงานของอวัยวะในส่วนต่างๆที่อยู่ภายใน การพักผ่อนสักสองสามวันอาจทำให้คุณกลับมายืนได้ไวขึ้นในระยะยาว ดังนั้นหากคุณเป็นไข้หวัดหรือมีอาการไอจามคุณควรหยุดพักการทำงานตัดประมาณ 2-3 วันอาจจะทำให้ร่างกายของคุณฟื้นได้ดีขึ้น และสามารถกลับมาทำงานได้ดีเป็นปกติ
ยาปฏิชีวนะจะไม่ฆ่าไวรัสดังนั้นการใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อเป็นหวัดจึงมีแนวโน้มที่จะทำลายแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในร่างกายของคุณเท่านั้น หากคุณยังยังไม่หายจากอาการภายใน 10-14 วันและมีอาการไข้สูงกว่า 101.5°F ต้องไม่ควรปล่อยไว้แล้วพบแพทย์ทันทีเนื่องจากนอกเหนือจากการเป็นไข้หวัดแล้วคุณอาจติดเชื้อแบคทีเรียได้
นอกจากนี้สิ่งที่คุณสามารถปฏิบัติร่วมกันได้คือการเลือกบริโภคกระเทียมเนื่องจากหนึ่งในงานวิจัยพบว่ากระเทียมนั้นสามารถช่วยลดอาการไข้หวัดได้ดี และหากคุณเป็นผู้ที่ใช้บุหรี่อยู่เป็นประจำเราขอแนะนำให้คุณงดสูบบุหรี่ในขณะที่เป็นหวัดเพราะควันอาจยิ่งทำให้ปอดของคุณระคายเคืองมากกว่าเดิมและทำให้อาการไอของคุณแย่ลง อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพร่างกายไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่ต้องไม่ควรละเลยการสังเกตอาการของตัวเองนะคะทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและคนในครอบครัวเนื่องจากไข้หวัดสามารถติดต่อกันได้
อย่างไรก็ตามพวกเราทีมงานหวังอย่างยิ่งว่าบทความ ทำอย่างไรจึงจะหายจากการเป็นไข้หวัดได้เร็วขึ้น เรื่องน่ารู้ที่ไม่ควรพลาด ! ที่เราได้นำมาฝากกันในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่รักสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นนะคะ และถ้าหากบทความไม่มีประโยชน์ต้องอย่าลืมส่งต่อให้กับเพื่อนๆและคนที่คุณรักด้วยเช่นกันค่ะ