ที่ผ่านมาได้มีนักวิจัยตรวจสอบในเรื่องของความเชื่อมโยงระหว่างการเผาผลาญ และสุขภาพของสมอง กันอย่างมากมาย จนพบถึงปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลต่อสภาวะของสุขภาพสมองได้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงประเด็น ความเชื่อมโยงระหว่างเมตาบอลิซึมกับสุขภาพสมองที่นักวิทยาศาตร์ค้นพบ ! เพราะเราเชื่อว่าจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการทราบถึงข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆเหล่านี้กันอย่างแน่นอน และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปพบกับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจที่มีประโยชน์กันดังต่อไปนี้
หลักฐานทางงานวิจัยต่างๆ
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ได้พบว่าผู้คนกว่า 55 ล้านคนจากทั่วโลก เป็นโรคสมองเสื่อม โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัยมากถึง 10 ล้านราย การศึกษาแสดงให้เห็นได้ว่า สมองผ่านการเปลี่ยนแปลงการทำงานและโครงสร้างหลายปีก่อนที่จะเริ่มมีอาการบกพร่องทางสติปัญญา
งานวิจัยอื่นๆ จากแหล่งที่เชื่อถือได้ระบุว่าปัจจัยการเผาผลาญ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดผิดปกติ (มีระดับไขมันในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป) และความดันโลหิตสูงนั้นเชื่อมโยงกับความเสื่อมของความรู้ความเข้าใจและภาวะสมองเสื่อมได้
การศึกษาหนึ่งได้พบว่าผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีปัจจัยเสี่ยงทางเมตาบอลิซึมมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ 11.48 เท่ามากกว่าผู้ที่ไม่มี การตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างปัจจัยเสี่ยงด้านเมตาบอลิซึมและภาวะสมองเสื่อมสามารถช่วยแนวทางป้องกันโดยพิจารณาจากความเสี่ยงเมตาบอลิซึม
อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิจัยได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่าง biomarkers การเผาผลาญและสุขภาพสมองซึ่งได้รับจากข้อมูลของการถ่ายภาพสมอง พวกเขาพบว่าการเผาผลาญเชื่อมโยงกับลักษณะการสร้างภาพประสาท ที่บ่งบอกถึงการลดลงของความรู้ความเข้าใจและความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมที่เพิ่มขึ้น
การเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์กับการเปลี่ยนแปลงของสมอง
สำหรับการศึกษานี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากบุคคล 26,239 คน ของธนาคาร Biobank ในสหราชอาณาจักร ซึ่งปลอดจากภาวะสมองเสื่อมและโรคหลอดเลือดสมอง โดยการรับสมัคร ผู้เข้าร่วมมีอายุระหว่าง 37 ถึง 73 ปีที่รับสมัครและ 52% เป็นเพศหญิง นักวิจัยตรวจสอบข้อมูล MRI ในสมองของผู้เข้าร่วม ได้แก่ ปริมาณสมองทั้งหมด (TBV) , ปริมาณสสารสีเทา (GMV), ระดับความเข้มข้นของสารสีขาว (WMH) ,ปริมาณฮิปโปแคมปัส (HV) , การสะสมของเหล็ก ,จากการวัด MRI ของสมองเหล่านี้ TBVT ที่น่าเชื่อถือที่ต่ำกว่า, GBV ที่ต่ำกว่า และแหล่งที่เชื่อถือได้ของปริมาณ WMV ที่มากขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับความเสียหายของสมองและการสูญเสียการทำงาน
ในขณะเดียวกัน การสะสมของธาตุเหล็กที่มากขึ้นก็เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้มากกว่าเดิมเช่นกัน ซึ่งเป็นภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด HV ที่ลดลงยังเชื่อมโยงกับหน่วยความจำที่ด้อยกว่า การเรียนรู้ด้วยวาจา ความเร็วในการประมวลผล และการรับคำสั่งจากเจ้านายหรือผู้บริหารก็มีส่วน
นักวิจัยประเมินการถ่ายภาพสมองตามตัวบ่งชี้ทางชีวภาพจำนวนหนึ่ง ได้แก่ ระดับคอเลสเตอรอล ,ระดับการอักเสบ , การทำงานของไต , การทำงานของตับ ,ดัชนีมวลกาย (BMI) , อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน (BMR) , จำนวนแคลอรีที่เผาผลาญขณะพัก , ความดันโลหิต รวมถึงระดับ 25(OH)D ซึ่งเป็นตัววัดของวิตามิน D
พวกเขาพบว่าผู้ที่อายุที่น้อยกว่า ระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ไม่เคยสูบบุหรี่ ชั่วโมงทำงานจำนวนมากขึ้น และการออกกำลังกายในระดับที่สูงขึ้นเชื่อมโยงกับ HV ที่มากขึ้นและรอยโรคในสมองน้อยลง
พวกเขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าระดับการสะสมของธาตุเหล็กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอายุและสูงกว่า ในของกลุ่มผู้ที่สูบบุหรี่และอดีตผู้สูบบุหรี่ , ผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงขึ้น , ชั่วโมงการทำงานมากขึ้น และระดับการออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังมากขึ้น
นักวิจัยยังพบว่า ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง , ค่าดัชนีมวลกายสูง , รวมถึงภาวะของการทำงานของตับและไตที่ไม่ดี และการอักเสบในระดับสูง มีส่วนเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ของสมองที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุด ไตรกลีเซอไรด์สูงและความผิดปกติของตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื่อมโยงกับการสะสมของธาตุเหล็ก รอยโรคในสมอง และการสูญเสีย GMV ในระดับสูงสุด อีกทั้งนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า BMR ที่สูงขึ้นนั้นเชื่อมโยงกับการสะสมของธาตุเหล็กที่มากขึ้น GMV ที่ต่ำกว่า และ HV ที่ต่ำกว่าโรคอ้วน พวกเขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าระดับวิตามินดีที่ต่ำกว่านั้นเชื่อมโยงกับรอยโรคในสมองมากขึ้น และลด TBV และ GMV
การสะสมของธาตุเหล็กในสมอง
เมื่อถูกถามว่าธาตุเหล็กก่อตัวขึ้นในสมองได้อย่างไร ดร.รัสเซล เอช. สเวิร์ดโลว์ (ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคอัลไซเมอร์แห่งมหาวิทยาลัยแคนซัส คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแคนซัส) ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ ได้ให้ข้อมูลว่า
“สมองต้องการธาตุเหล็กเพื่อสร้างโครงสร้างบางอย่างที่เรียกว่า เอนไซม์สายโซ่ทางเดินหายใจ (โปรตีนที่มีบทบาทในการเผาผลาญของเซลล์) ซึ่งมีข้อบกพร่องในโรคอัลไซเมอร์ หากเราไม่สามารถสร้างเอ็นไซม์ระบบทางเดินหายใจได้อย่างถูกต้อง ระดับของธาตุเหล็กจะเริ่มสูงขึ้น”
ดร.มิคาอิล โคโลนิน ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการศูนย์โรคเมตาบอลิซึมและความเสื่อมที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ด้วย กล่าวเสริมว่า
“โดยปกติ สิ่งกีดขวางเลือดและสมอง (BBB) จะจำกัดการเข้าถึงธาตุเหล็กในเซลล์สมอง microbleeds ที่เกิดซ้ำอาจเป็นคำอธิบายหนึ่งสำหรับการสะสมธาตุเหล็กที่เพิ่มขึ้นในวัยชรา อย่างไรก็ตามความผิดปกติของการเผาผลาญและการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการชราภาพเรื้อรังเป็นอันตรายต่อเซลล์ที่สร้าง BBB ซึ่งส่งผลให้มีธาตุเหล็กในสมองเพิ่มขึ้น อาจมีความสำคัญมากกว่า”
กลไกพื้นฐาน
นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการค้นพบส่วนใหญ่สอดคล้องกับการวิจัยแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนหน้านี้ได้อย่างไรก็ตามที่ Dr. Kolonin ตั้งข้อสังเกตว่าผลการศึกษาเกี่ยวกับ BMR นั้นน่าประหลาดใจ
“อัตราการเผาผลาญพื้นฐานลดลงตามอายุ และนักกีฬาทราบกันดีว่ามีการเผาผลาญพื้นฐานที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ผลการศึกษานี้ขัดกับสัญชาตญาณ เห็นได้ชัดว่าอัตราการเผาผลาญพื้นฐานอาจถูกปรับโดยกระบวนการส่งเสริมสุขภาพและกระบวนการที่ทำให้เกิดโรค” เขากล่าว
“จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อระบุเครื่องหมายคาดการณ์ ความเสี่ยงของความผิดปกติของระบบประสาท” เขากล่าวเสริม
นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่ BMR เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของเซลล์ประสาท แต่ค่า BMR ที่สูงขึ้นอาจส่งเสริมความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน หากไม่ปรับสมดุลร่างกายด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอ อีกทั้งพวกยังคิดว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อสำรวจต่อไป นักวิจัยสรุปว่าตัวบ่งชี้การเผาผลาญเช่น BMR และ BP อาจให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าในการพัฒนาภาวะสมองเสื่อมได้
อย่างไรก็ตามวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาการเผาผลาญอาหารที่ดี คือการหลีกเลี่ยงการสะสมของน้ำหนักส่วนเกินผ่านการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย อีกทั้งการออกกำลังกายยังอาจเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
ได้ทราบถึงสาระน่ารู้ที่มีประโยชน์สำหรับเรื่องราวของ ความเชื่อมโยงระหว่างเมตาบอลิซึมกับสุขภาพสมองที่นักวิทยาศาตร์ค้นพบ ! ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อสักครู่กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามเพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีเราควรมาดูแลสุขภาพ และหมั่นควบคุมระดับของน้ำหนักกันเอาไว้ให้ดีนะคะ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมไปกับลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ให้กับตัวคุณได้อีกด้วยค่ะ
แล้วกลับมาพบกับพวกเราได้ไหม่ในบทความครั้งต่อไป สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่คอยติดตามเรื่องราวดีๆที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจากพวกเราที่อยากเสมอมา และหากมีสิ่งใดผิดพลาดพวกเราทีมงานต้องขอกราบอภัยกันไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ ขอให้คุณโชคดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับวันนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อนนะคะ Have a nice day